สรุปผลประเมินทบทวนระบบประกันคุณภาพการศึกษา ปีการศึกษา 2564
กิจกรรม การประชุมประเมินทบทวนระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564
ผู้รับผิดชอบ นายพัชรากร สอนอุ่น นางสาวภัทธ์ธีรา บุญหนุน และนายทัศนชัย เก่งกำลังพล
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 9 (3) ได้กำหนดการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักที่สำคัญข้อหนึ่ง คือ มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา โดยมาตรา 31 ให้กระทรวงมีอำนาจหน้าที่กากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กำหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา และมาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ตัวชี้วัด 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานของสถานศึกษาที่ได้กำหนดค่าเป้าหมายความสำเร็จไว้ อยู่ในระดับดี โดยดำเนินการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก
ดังนั้น กลุ่มบริหารงบประมาณและแผน กลุ่มงานมาตรฐานคุณภาพการศึกษาจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมประชุมประเมินทบทวนระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 ระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม พ.ศ. 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Google Meet และผลการจัดกิจกรรมนั้นพบว่า
1. สถานศึกษามี และดำเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริการ และจัดการศึกษาที่มีความเหมาะสม ครอบคลุมงานวิชาการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พัฒนาครูและบุคลากรของโรงเรียน และบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 75.47
2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ความร่วมมือในการวางระบบ และดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 77.36
3. ครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือผู้เกี่ยวข้องมีความมั่นใจต่อระบบการบริหารจัดการของสถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 77.36
4. ผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วนร่วมในการติดตาม และประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 75.47
5. หลังอบรมฯ สามารถนำผลการประกันคุณภาพการศึกษาไปใช้ในการพัฒนา และจัดทำรายงานการประเมินคุณภาพภายในได้ อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 81.13
6. วิทยากรสามารถอธิบายเนื้อหาได้ชัดเจนและตรงประเด็น อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 86.79
7. ความรู้ที่ได้รับจากวิทยากร อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 84.91
8. ความเหมาะสมของระยะเวลาในการจัดกิจกรรมฯ อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 77.36
9. ความเหมาะสมของอาหารกลางวันและอาหารว่าง อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 84.91
10. ความพึงพอใจในภาพรวมของการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 77.36