รายงานการประเมินโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียน
ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวาน สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4
ผู้วิจัย นายวัชรพงษ์ กินบุญ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการ
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิตและผลกระทบของโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 กลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน (ไม่ร่วมผู้อำนวยการโรงเรียนและตัวแทนครู) ครู จำนวน 14 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 54 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามประเมินด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ ด้านผลผลิต และด้านผลกระทบ เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบบบันทึกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบบันทึกผลการประเมินสมรรถนะนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมิน พบว่า
1. ผลการประเมินบริบทของโครงการ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55) และเมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62) และเมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการที่มีความเหมาะสมสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ โครงการมีความจำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ( = 4.86) โครงการมีความจำเป็นต่อการพัฒนากระบวนการนิเทศการสอนและชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ( = 4.86) รองลงมามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ วัตถุประสงค์สอดคล้องกับนโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ( = 4.81) ส่วนรายการที่มีความเหมาะสมต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ได้แก่ การนำระบบข้อมูลสารสนเทศที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการมาใช้ในการวางแผนอย่างเหมาะสม ( = 4.29) ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน
2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้าที่ใช้ในการดำเนินโครงการ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54) และเมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการที่มีความเหมาะสมสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ ครูมีความพร้อมในการดำเนินโครงการ ( = 4.81) รองลงมามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ โรงเรียนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบกิจกรรมตามโครงการชัดเจน ( = 4.71) ส่วนรายการที่มีความเหมาะสมต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ได้แก่ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการมีความเพียงพอ ( = 4.24) ทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความเห็นอยู่ในระดับมาก ( = 4.48) และครูมีความเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54)
3. ผลการประเมินกระบวนการดำเนินโครงการนิเทศการสอนด้วยระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) แนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวาน ตามความคิดเห็นของครูโรงเรียนบ้านม่วงหวาน พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56) และเมื่อพิจารณาเป็นรายการ พบว่า รายการที่มีความเหมาะสมสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ( = 4.79) รองลงมามีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ได้แก่ โรงเรียนมีการกำกับติดตามผลการจัดกิจกรรมอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ( = 4.71) ส่วนรายการที่มีความเหมาะสมต่ำสุด อยู่ในระดับมาก ได้แก่ การดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ( = 4.29) สรุปได้ว่าประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. ผลการประเมินผลผลิตของโครงการ ได้แก่
4.1 ประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนของครู พบว่า ครูมีความเห็นว่าประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนของครู มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62)
4.2 ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาและสมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านม่วงหวาน ปีการศึกษา 2564 พบว่า พบว่า คะแนนเฉลี่ย GPA ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาโรงเรียนบ้านม่วงหวาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ค่าเฉลี่ย GPA เท่ากับ 3.27 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ปีการศึกษา 2564 โดยเฉลี่ยรวมค่าเฉลี่ย GPA เท่ากับ 3.30 เมื่อพิจารณาจำแนกตามระดับชั้นพบว่า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ย GPA เท่ากับ 3.46 รองลงมาได้แก่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉลี่ย GPA เท่ากับ 3.35 ส่วนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ย GPA ต่ำสุด เท่ากับ 3.11 และสมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนบ้านม่วงหวาน ปีการศึกษา 2564 โดยเฉลี่ยรวมสมรรถนะนักเรียนทั้ง 5 ด้านอยู่ในระดับดีและระดับดีมาก ร้อยละ 96.66 อยู่ในระดับพอใช้และปรับปรุง ร้อยละ 3.33
5. ผลประเมินผลกระทบของโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวานพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนของครูในโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวานอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.63) และครูมีความพึงพอใจต่อต่อโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวาน ปีการศึกษา 2564 อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.58)
สรุปได้ว่า ผลการประเมินโครงการนิเทศการสอนด้วยระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวาน จำแนกตามประเด็นตัวชี้วัด และเกณฑ์การประเมิน พบว่าด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิต อยู่ในระดับมากที่สุด และคุณภาพผู้เรียน จำแนกเป็นผลสัมฤทธิ์ระดับสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ค่าเฉลี่ย GPA ≥ 2.00 และสมรรถนะนักเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาระดับดี- ดีมาก ≥ ร้อยละ 90 และทุกประเด็นตัวชี้วัดสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
สำหรับข้อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ ของโรงเรียนบ้านม่วงหวานที่ได้จากการประเมินโครงการในแต่ละด้าน สรุปได้ดังนี้
1. ควรนำผลการประเมินโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่ของโรงเรียนบ้านม่วงหวาน เสนอหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานภายนอกและผู้ปกครองนักเรียน เพื่อให้ได้รับงบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการ
2. ควรมีการการวางแผน การปฏิบัติงานการดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด
3.โรงเรียนควรนำผลการนำระบบข้อมูลสารสนเทศที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการมาใช้ในการวางแผนอย่างเหมาะสม
4. ควรจัดให้มีโครงการนิเทศการสอนด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนววิถีใหม่เป็นโครงการต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปีการศึกษา และมีการประเมินผลการดำเนินงานโครงการเพื่อนำผลไปปรับปรุงครั้งต่อไป
5. โรงเรียนควรพัฒนาการจัดกิจกรรมต่างๆ ของโครงการนิเทศการสอนอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอจนกลายเป็นวิถีของโรงเรียนที่มีความเด่นชัดและมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองสามารถเป็นแบบอย่างของโรงเรียนอื่นได้