การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้รูปแบบการประ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา ดังนี้ 1. เพื่อประเมินบริบท (Context) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน 2. เพื่อกระเมินปัจจัยนำเข้า (Input) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน 3. เพื่อประเมินกระบวนการ (Process) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน 4. เพื่อประเมินผลผลิต (Product) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน 5. เพื่อประเมินผลกระทบ (Impact) โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มาจากประชากรทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารจำนวน 5 คน ครูผู้สอนจำนวน 92 คน นักเรียนจำนวน 331 คน ผู้ปกครองจำนวน 331 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้การเปิดตาราง Krejcie and Morgan รวมกลุ่มตัวอย่าง 759 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เป็นแบบสอบถาม ที่มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Checklist) แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ด้านบริบท พบว่า ความพร้อมด้านบริบทของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการพบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือวัตถุประสงค์ของโครงการและลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความพร้อมและศักยภาพของครู
2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ความพร้อมด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือด้านงบประมาณ และค่าเฉลี่ยลำดับต่ำสุด คือ ด้านสื่อวัสดุอุปกรณ์
3. ด้านกระบวนการ พบว่า ความเหมาะสม ความเหมาะสม ด้านกระบวนการของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่าทุกรายการมีความเหมาะสมอยู่ ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การส่งเสริมพัฒนานักเรียนหลากหลายและลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งต่อนักเรียน
4. ด้านผลผลิต พบว่า ผลผลิตของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่าทุกรายการมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตและสุขนิสัย และเจตคติที่ดีและมีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพสุจริต
5. ด้านผลกระทบ พบว่า ผลกระทบของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่าทุกรายการมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านผู้ปกครองรองลงมา คือ ด้านโรงเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ด้านบริบท พบว่า ความพร้อมด้านบริบทของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการพบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือวัตถุประสงค์ของโครงการและลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความพร้อมและศักยภาพของครู
2. ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า ความพร้อมด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือด้านงบประมาณ และค่าเฉลี่ยลำดับต่ำสุด คือ ด้านสื่อวัสดุอุปกรณ์
3. ด้านกระบวนการ พบว่า ความเหมาะสม ความเหมาะสม ด้านกระบวนการของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่าทุกรายการมีความเหมาะสมอยู่ ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การส่งเสริมพัฒนานักเรียนหลากหลายและลำดับค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การส่งต่อนักเรียน
4. ด้านผลผลิต พบว่า ผลผลิตของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่าทุกรายการมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตและสุขนิสัย และเจตคติที่ดีและมีทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพสุจริต
5. ด้านผลกระทบ พบว่า ผลกระทบของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน ภาพรวมอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาในแต่ละรายการ พบว่าทุกรายการมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก รายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านผู้ปกครองรองลงมา คือ ด้านโรงเรียน