การพัฒนาการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบุเสมาทอง
ผู้วิจัย กัญทิมา ศรีศาลาแสง1 จิราพร ละครพล2 วีระชัย รัตรองใต้ 3
ตำแหน่ง 1 ครูสอนภาษาอังกฤษ 2 ครูผู้ช่วย 3 ผู้บริหารสถานศึกษา
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านบุเสมาทอง
ปีที่พิมพ์ 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ หน่วย My House และ หน่วย Animals วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ 4) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2563 ในศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาบัวใหญ่ 2 อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เนื่องจากประชากรมีความคล้ายคลึงกัน (Cluster) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling Unit) โดยสุ่มมา 1 ห้องเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านบุเสมาทอง จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดกิจกรรมการสอนอ่านแบบโฟนิกส์ จำนวน 8 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 2 ชุด จำนวน 35 ข้อ 3) แบบวัดความพึงพอใจ ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและใช้สถิติ t-test (Dependent Sample)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ หน่วย My House และ หน่วย Animals วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาบัวใหญ่ 2 อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 (E1/E2) โดยภาพรวม มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 78.11/77.13 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 75/75
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 คะแนนหลังการจัดกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ ด้วยรูปแบบการ จัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์สูงกว่าคะแนนก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษและแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3. การจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผู้เรียนที่มีความพึงใจในการเรียน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาตามความพึงพอใจของผู้เรียนมากที่สุดคือ นักเรียนชอบฟังเพลง Phonics Song รองลงมาคือ นักเรียนชอบเล่นเกมเพื่อทบทวนเสียงตัวอักษร และ นักเรียนชอบทำกิจกรรมการเติมตัวอักษรที่หายไป ตามลำดับ ส่วนความพึงพอใจของผู้เรียนน้อยที่สุด คือ นักเรียนชอบออกเสียงตัวอักษรด้วยบัตรอักษร
4. การทดสอบความคงทน ระหว่าง T2 (การวัดผลหลังการเรียน) และ T3 (การวัดความคงทนหลังเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์) ผู้เรียน มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์ (T3) สูงกว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (T2) แสดงว่าผู้เรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการ จัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ มีความคงทนในการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0 .01
คำสำคัญ : การจัดกิจกรรมการสอน ,การอ่านภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์