รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน การเขียน “กระดังงา 9 ดอก
ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน การเขียน “กระดังงา 9 ดอก อ่านออกเขียนได้” ของโรงเรียนบ้านประพาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ปีการศึกษา 2564 โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model
ชื่อผู้ประเมิน นางสาวธรพรกมล อินทะเว
ปีที่ประเมิน 2564
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน การเขียน “กระดังงา 9 ดอก อ่านออกเขียนได้” ของโรงเรียนบ้านประพาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผู้ประเมินจึงมีความสนใจที่จะประเมินโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPPEST โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านออก การเขียนได้ “กระดังงา 9 ดอก อ่านออกเขียนได้” ของโรงเรียนบ้านประพาส 2) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการยกระดับการอ่าน การเขียน ของนักเรียนโรงเรียนบ้านประพาส การประเมินครั้งนี้เป็นการประเมินโดยเก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จากกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มที่ 2 ผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ครูและนักเรียน จำนวน 653 คน ของโรงเรียนบ้านประพาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) มีกระบวนการดำเนินการประเมิน แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การประเมินก่อนดำเนินการโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ด้านบริบทและด้านปัจจัย ระยะที่ 2 การประเมินระหว่างดำเนินการโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ด้านกระบวนการ ระยะที่ 3 การประเมินหลังดำเนินการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ด้านผลผลิตและส่วนปรับขยาย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมมี 2 ประเภท คือ 1) แบบสอบถามจำนวน 2 ฉบับ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ฉบับที่ 1 ได้ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.41 - 0.90 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 ฉบับที่ 2 ได้ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.41 - 0.90 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 และ 2) แบบสัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการประเมินพบว่า 1) ผลการประเมินโครงการผ่านเกณฑ์ทุกด้าน โดยกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาและผู้รับผิดชอบโครงการผ่านเกณฑ์ทุกด้าน ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และพบว่าด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านการถ่ายโยงความรู้ ด้านกระบวนการ และด้านความยั่งยืนอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ครู นักเรียน ประเมินโครงการผ่านเกณฑ์ด้านในภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก 2) แนวทางการส่งเสริมการยกระดับการอ่าน การเขียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านประพาส กล่าวโดยสรุป คือ ในการส่งเสริมการอ่าน และการเขียนจะต้องสร้างกิจกรรมและบรรยากาศ ที่กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการอ่านและการเขียน ผู้บริหารสถานศึกษาต้องสนับสนุนทั้งด้านสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือครูต้องพัฒนากระบวนการ ทักษะรวมถึงการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่กระตุ้นกระบวนการคิดของนักเรียนโดยบูรณาการเพิ่มเติมจากการอ่านและการเขียนที่มีคุณภาพ ซึ่งหากโรงเรียนบ้านประพาสต้องการส่งเสริมและยกระดับการอ่าน การเขียนของนักเรียน ควรให้ความสำคัญในด้านบรรยากาศ และนวัตกรรมที่เหมาะสมต่อความสนใจของนักเรียนเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและการพัฒนาอย่างยังยืน
คำสำคัญ : การประเมินโครงการ , รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model, การอ่าน, การเขียน
ชื่อผู้ประเมิน นางสาวธรพรกมล อินทะเว
ปีที่ประเมิน 2564
บทคัดย่อ
การประเมินโครงการส่งเสริมการอ่าน การเขียน “กระดังงา 9 ดอก อ่านออกเขียนได้” ของโรงเรียนบ้านประพาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผู้ประเมินจึงมีความสนใจที่จะประเมินโครงการโดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPPEST โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านออก การเขียนได้ “กระดังงา 9 ดอก อ่านออกเขียนได้” ของโรงเรียนบ้านประพาส 2) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการยกระดับการอ่าน การเขียน ของนักเรียนโรงเรียนบ้านประพาส การประเมินครั้งนี้เป็นการประเมินโดยเก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จากกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มที่ 2 ผู้เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ครูและนักเรียน จำนวน 653 คน ของโรงเรียนบ้านประพาส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) มีกระบวนการดำเนินการประเมิน แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การประเมินก่อนดำเนินการโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ด้านบริบทและด้านปัจจัย ระยะที่ 2 การประเมินระหว่างดำเนินการโครงการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ด้านกระบวนการ ระยะที่ 3 การประเมินหลังดำเนินการ โดยประยุกต์ใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ด้านผลผลิตและส่วนปรับขยาย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมมี 2 ประเภท คือ 1) แบบสอบถามจำนวน 2 ฉบับ มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ฉบับที่ 1 ได้ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.41 - 0.90 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 ฉบับที่ 2 ได้ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.41 - 0.90 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 และ 2) แบบสัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการประเมินพบว่า 1) ผลการประเมินโครงการผ่านเกณฑ์ทุกด้าน โดยกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาและผู้รับผิดชอบโครงการผ่านเกณฑ์ทุกด้าน ในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และพบว่าด้านผลกระทบ ด้านประสิทธิผล ด้านการถ่ายโยงความรู้ ด้านกระบวนการ และด้านความยั่งยืนอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ครู นักเรียน ประเมินโครงการผ่านเกณฑ์ด้านในภาพรวมและรายข้ออยู่ในระดับมาก 2) แนวทางการส่งเสริมการยกระดับการอ่าน การเขียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านประพาส กล่าวโดยสรุป คือ ในการส่งเสริมการอ่าน และการเขียนจะต้องสร้างกิจกรรมและบรรยากาศ ที่กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการอ่านและการเขียน ผู้บริหารสถานศึกษาต้องสนับสนุนทั้งด้านสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือครูต้องพัฒนากระบวนการ ทักษะรวมถึงการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่กระตุ้นกระบวนการคิดของนักเรียนโดยบูรณาการเพิ่มเติมจากการอ่านและการเขียนที่มีคุณภาพ ซึ่งหากโรงเรียนบ้านประพาสต้องการส่งเสริมและยกระดับการอ่าน การเขียนของนักเรียน ควรให้ความสำคัญในด้านบรรยากาศ และนวัตกรรมที่เหมาะสมต่อความสนใจของนักเรียนเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและการพัฒนาอย่างยังยืน
คำสำคัญ : การประเมินโครงการ , รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model, การอ่าน, การเขียน