การพัฒนารูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal
ผู้ดำเนินการวิจัย นางสาวศิรินภา จันทร์เปล่ง
หน่วยงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จ
จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
ปี พ.ศ. 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (4) เพื่อตรวจสอบผลของรูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองสมเด็จ จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ คือแบบสอบถาม แบบทดสอบ และแบบประเมิน และเครื่องมือในการวิจัยเชิงคุณภาพคือแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในงานวิจัยคือ สถิติเชิงพรรณา ผลการวิจัยมีดังนี้
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ที่เกิดจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า นักเรียนมีความคิดเห็นต่อประเด็นปัญหาอยู่ในระดับมาก จำนวน 8 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ นักเรียนต้องการการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน เพื่อความปลอดภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ( = 4.12) นอกจากนี้จากการสัมภาษณ์ พบว่า นักเรียนต้องการการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบผสมผสาน โดยเน้นการสร้างทักษะการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การปฏิบัติ และจำกัดจำนวนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ดังนั้นครูผู้สอนจะต้องสามารถพิจารณา ปรับวิธีการจัดการเรียนการสอน และการประเมินผลการเรียนได้ตามความเหมาะสม
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้านการฟัง ก่อนการใช้รูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.52 คิดเป็นร้อยละ 42.60 ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้านการสื่อสาร ก่อนการใช้รูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 12.92 คิดเป็นร้อยละ 43.07 ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
4. ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 ท่าน พบว่า ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนการสอนฯ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.32)
5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์จากการทดสอบการฟังภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตจริง หลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ โดยรวมได้คะแนนเฉลี่ย 16.96 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 84.80 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
6. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์จากการผลการทดสอบการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตจริง หลังเรียนแผนการจัดการเรียนรู้ โดยรวมได้คะแนนเฉลี่ย 25.24 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 84.13 ผ่านเกณฑ์การประเมิน
7. ผลประเมินความพึงพอใจการใช้รูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.07)
8. หลังการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบผสมผสาน ในยุค New Normal โดยใช้เทคนิคการสอนแบบ CLT ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการฟังและการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตจริงโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
คำสำคัญ รูปแบบการสอนแบบผสมผสาน เทคนิคการสอนแบบ CLT บทเรียนออนไลน์ ยุค New Normal