รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โรงเรียนบ้านคลองของ
โรงเรียนบ้านคลองของ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
ผู้ประเมิน นางสาวรัตนา ดำจีน ผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนบ้านชาคลี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง
ปีการศึกษา ๒๕๖๔
บทสรุป
การรายงานการประเมินโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านคลองของ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ประชากรที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านคลองของ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๔ คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑–๖ จำนวน ๓๐ คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน ๒๙ คน และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน ๗ คน (ยกเว้นผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้แทนครู) รวมทั้งสิ้น ๗๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบประเมินแบบมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ จำนวน ๙ ฉบับ ฉบับที่ 1 แบบประเมินด้านสภาวะแวดล้อมหรือบริบท ฉบับที่ 2 แบบประเมินด้านปัจจัยพื้นฐาน ฉบับที่ 3 แบบประเมินด้านกระบวนการ ฉบับที่ 4 แบบประเมินด้านผลผลิต ซึ่งประกอบด้วย ชุดที่ 1 ประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่าน ชุดที่ 2 ประเมินนิสัยรักการอ่าน ชุดที่ 3 ประเมินพฤติกรรมนักเรียน ชุดที่ 4 ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชุดที่ 5 แบบประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียน ชุดที่ 6 แบบประเมินความสามารถในการเขียนของนักเรียน เครื่องมือความเที่ยงตรงตามเนื้อหาระหว่าง 0.80 ถึง 0.90 และมีความเชื่อมั่นระหว่าง 0.70 ถึง 0.75 การประเมินสรุปได้ดังนี้
1. ด้านบริบทหรือสภาวะแวดล้อม ผู้บริหารคณะครูมีความคิดเห็นว่า บริบทหรือสภาวะแวดล้อมของโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือการกำหนดหลักการของโครงการสอดคล้องกับสภาพปัญหา การกำหนดเป้าหมายของโครงการสอดคล้องกับปัญหา และวัตถุประสงค์ของโครงการ การกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับปัญหา และหลักการของโครงการ การเตรียมการในสถานศึกษาส่งเสริมการดำเนินงานตามโครงการ การกำหนดหลักการของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายของโรงเรียน
2. ด้านปัจจัยพื้นฐานโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผู้บริหารและคณะครูมีความเห็นว่า รายการที่มีความพร้อมซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ วัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการดำเนินงานเพียงพอ อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ มีสื่อ เทคโนโลยีในการดำเนินกิจกรรมโครงการเพียงพอ ผู้ปกครองให้ความร่วมมือและสนับสนุนการจัดกิจกรรม
3. ด้านกระบวนการ โครงการส่งเสริมรักการอ่าน ผู้บริหารและครู มีความคิดเห็นว่า
ด้านกระบวนการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มีคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ มีการกำหนดปฏิทินการทำงานชัดเจน และ มีการกำหนดกิจกรรมได้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานศึกษา
4. ด้านผลผลิต
4.1 ผลการประเมินกิจกรรมโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ กิจกรรมอ่านทุกคนฝึกฝนทุกวัน กิจกรรมวันสำคัญ กิจกรรมพี่สอนน้องอ่าน และกิจกรรมเสียงตามสาย
4.2 ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนอ่านหนังสือด้วยความตั้งใจเป็นเวลานาน นักเรียนชอบอ่านหนังสือการ์ตูนนอกจากหนังสือเรียน นักเรียนจดบันทึกองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน นักเรียนชอบอ่านหนังสือ และจัดเก็บหนังสือเป็นอย่างดี
4.3 ผลการประเมินพฤติกรรมในการเรียนของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนเข้าเรียนตรงเวลา นักเรียนร่วมกิจกรรมเต็มเวลา นักเรียนตั้งใจฟังครูอธิบาย พูดแนะนำ นักเรียนสืบค้นสาระความรู้เพิ่มเติม
4.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การมีส่วนร่วมของครู กิจกรรมโครงการทุกกิจกรรมน่าสนใจ และความพึงพอใจในผลงานของตนเองที่เกิดจากกิจกรรมโครงการ ความพึงพอใจของครูต่อโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การมีส่วนร่วมของนักเรียน กิจกรรมโครงการทุกกิจกรรมน่าสนใจ และความพึงพอใจในผลงานที่เกิดจากกิจกรรมโครงการ ความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ กิจกรรมโครงการตรงกับความต้องการ กิจกรรมโครงการทุกกิจกรรมน่าสนใจ และประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาต่อโครงการส่งเสริมรักการอ่าน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ กิจกรรมโครงการตรงกับความต้องการ กิจกรรมโครงการทุกกิจกรรมน่าสนใจ และประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ
4.5 ผลการประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ อ่านเว้นวรรคตอนถูกต้อง มีพัฒนาการด้านการอ่าน ไม่อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ หรือตู่คำ
4.6 ผลการประเมินความสามารถในการเขียนของนักเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความสะอาดสวยงามเป็นระเบียบ เขียนถูกต้องด้วยตนเอง เขียนเสร็จทันเวลาตามที่กำหนด
ข้อเสนอแนะ
1. ผู้บริหารสถานศึกษาควรระดมปัจจัยการดำเนินงาน ได้แก่ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และงบประมาณจากหน่วยงานภายนอกมาสนับสนุนโครงการให้มีความพร้อมมากขึ้น
2. สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ครู และนักเรียนมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในการจัดซื้อหนังสือเข้าสมุด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ห้องสมุดโรงเรียน
3. สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการในกิจกรรมส่งเสริมรักการอ่าน เพื่อให้โครงการเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดียิ่งขึ้น