รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนคุณธรรมของโรงเรียนบ้านบุกระโทก
ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 โดยใช้รูปแบบ CIPPIEST Model
ผู้ประเมิน นางรมิตา สีมาพล
ปีที่ประเมิน ปีการศึกษา พ.ศ. 2564
รายงานการประเมินโครงการโรงเรียนคุณธรรมของโรงเรียนบ้านบุกระโทก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 โดยใช้รูปแบบ CIPPIEST Model โดยมีวัตถุประสงค์ของการประเมิน ดังนี้1) เพื่อประเมินความเหมาะสมของบริบทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการโรงเรียนคุณธรรม 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมของปัจจัยนำเข้าที่ใช้ใน
การดำเนินงานตามโครงการโรงเรียนคุณธรรม 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินงานของโครงการโรงเรียนคุณธรรม 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการโรงเรียนคุณธรรม ได้แก่คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการโรงเรียนคุณธรรม 5) เพื่อประเมินผลกระทบของโครงการโรงเรียนคุณธรรม 6) เพื่อประเมินประสิทธิผลโครงการโรงเรียนคุณธรรม 7) เพื่อประเมินความยั่งยืนของโครงการโรงเรียนคุณธรรม 8) เพื่อประเมินด้านการถ่ายทอดส่งต่อของโครงการโรงเรียนคุณธรรมโรงเรียนบ้านบุกระโทก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 6 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 7 คน (ไม่รวมผู้บริหารและตัวแทนครู) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 โดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 60 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 60 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 133 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ประมาณค่า 5 ระดับ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) 0.8 ถึง 1.0 ได้ค่าอำนาจจำแนกด้านบริบท 0.40 – 0.92 ด้านปัจจัยนำเข้า 0.49 – 0.95 ด้านกระบวนการ 0.65 – 0.91 ด้านผลผลิต 0.51–0.89 ด้านผลกระทบ 0.51–0.89 ด้านประสิทธิผล ด้านความยั่งยืน ด้านถ่ายทอดส่งต่อ 0.49 – 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
จากการประเมินพบว่าภาพรวมของโครงการโรงเรียนคุณธรรมของโรงเรียนบ้านบุกระโทก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 โดยใช้รูปแบบ CIPPIEST Model
มีระดับคุณภาพ ดังนี้
1. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับบริบทของโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โครงการมีความเหมาะสมและมีความจำเป็นในการแก้ปัญหา ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีดำเนินโครงการ
2.ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยนำเข้าของโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีแผนการดำเนินงานตามโครงการอย่างชัดเจน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ
3. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานของโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ขณะดำเนินงานตามโครงการมีการแก้ไขปรับปรุง วิธีการดำเนินโครงการเมื่อพบว่าบกพร่อง ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ รูปแบบการจัดกิจกรรมในโครงการช่วยให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม
4. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับผลผลิตจากการดำเนินโครงการด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ อยู่อย่างพอเพียง ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ซื่อสัตย์ สุจริต และเมื่อเรียงลำดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน สามารถเรียงลำดับได้ดังนี้คือ อยู่อย่างพอเพียง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ มุ่งมั่นในการทำงาน ใฝ่ เรียนรู้ ความมีวินัย และซื่อสัตย์สุจริต
5. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินโครงการด้านประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆนำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น
6. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิผลจากการดำเนินโครงการด้านประสิทธิผล โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยูในระดับมาก โรงเรียนจัดกิจกรรมโครงการได้อย่างมีคุณภาพ
7. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านความยั่งยืนจากการดำเนินโครงด้านความยั่งยืน โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยูในระดับมากที่สุด โครงการควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป ครูผู้สอนและผู้ปกครองพร้อมให้ความร่วมมือ สนับสนุนการดำเนินโครงการต่อไป
8. ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับถ่ายทอดจากการดำเนินโครงการด้านการถ่ายทอดส่งต่อ โดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยูในระดับมาก โรงเรียนประชาสัมพันธ์โครงการให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบด้วยวิธีการที่หลากหลาย โครงการสามารถเป็นแบบอยางขยายผลให้กับโรงเรียนอื่นได้