การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์
( Think – pair – share ) เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์
เรื่อง เซต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
สุภา กอล์ท
ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร, supa.g@obec.moe.go.th
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนคู่คิด ( Think – pair – share ) เรื่อง เซต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป และมีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนคู่คิด ( Think – pair – share ) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคาร อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 ห้องเรียน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/5 จำนวน 25 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินวิจัย ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนคู่คิด ( Think – pair – share ) จำนวน 18 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) เครื่องมือที่ใช้สะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกหลังการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบฝึกทักษะ
ผลการวิจัยพบว่า
1) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนคู่คิด ( Think – pair – share ) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเสนอบทเรียนต่อทั้งชั้น ประกอบด้วย ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 2) ขั้นสอนความรู้ใหม่ ประกอบด้วย 2.1) Think (คิดเดี่ยว) 2.2) Pair (คิดคู่) 2.3) Share (ร่วมกันคิด) 2.4) ขั้นนำเสนอผลงาน และ 3) ขั้นสรุปบทเรียน
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า (1) นักเรียนที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนคู่คิด ( Think – pair – share ) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 81.16 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือร้อยละ70 (2) มีจำนวนนักเรียนร้อยละ 88 ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป
3) จากการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ นักเรียนมีความคิดเห็นว่าการเรียนตามรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนคู่คิด ( Think – pair – share ) ทำให้นักเรียนได้ทำงานและเรียนเป็นกลุ่ม มีโอกาสให้ความรู้แก่เพื่อนและได้รับความรู้จากเพื่อนเช่นเดียวกัน ได้มีโอกาสแสดงความสามารถต่อกลุ่มและต่อชั้นเรียน ได้เรียนรู้ร่วมกันภายในกลุ่มและช่วยเหลือกัน ได้รู้จักและยอมรับความสามารถของตนเองและผู้อื่น