รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ
รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านพรุหวา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลาเขต 3 มีวัตถุประสงค์ในการทดลอง ดังนี้ (๑)เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ (๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบ้านพรุหวา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 รวม 17 คน ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจง(Purposive Sampling) เป็นห้องเรียนซึ่งผู้รายงานเป็นครูประจำชั้นและทำการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการรายงาน ได้แก่ (1) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๕ เล่ม ดังนี้ เล่มที่ ๑ เรื่อง คำร้อยเรียงเสียง ร ควบกล้ำ เล่มที่ ๒ เรื่อง คำร้อยเรียงเสียง ล ควบกล้ำ เล่มที่ ๓ เรื่อง คำร้อยเรียงเสียง ว ควบกล้ำ เล่มที่ ๔ เรื่อง น่าจดจำคำควบกล้ำไม่แท้ เล่มที่ ๕ เรื่อง คำควบกล้ำแท้และไม่แท้ (2) แผนการจัดการรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน 22 แผน
(3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อประเมินความรู้ของนักเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน 30 ข้อ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ สถิติที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (Arithimetic:Mean: ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(Standard Deviation : S.D.)
สรุปผลการทดลอง พบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๑.๙๕/๘๒.๕๓ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
(3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อประเมินความรู้ของนักเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน 30 ข้อ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ สถิติที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (Arithimetic:Mean: ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(Standard Deviation : S.D.)
สรุปผลการทดลอง พบว่า
๑. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๑.๙๕/๘๒.๕๓ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านและการเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ โดยรวมอยู่ในระดับมาก