การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อน
ชื่องานวิจัย การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียน สำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายวุฒิกษณ์ ก่อบุญ
ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป
เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านหันวิทยา อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ จำนวนนักเรียน 20 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ได้แก่ 1) บทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาสุขศึกษาและ
พลศึกษา1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา พ31101 สุขศึกษาและพลศึกษา1 ที่ใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 18 แผน 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และการทดสอบหาค่า t-test แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัย สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.54/81.67 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 พบว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 24.50 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.11, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.62)
ผู้วิจัย นายวุฒิกษณ์ ก่อบุญ
ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป
เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านหันวิทยา อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ จำนวนนักเรียน 20 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ได้แก่ 1) บทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาสุขศึกษาและ
พลศึกษา1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา พ31101 สุขศึกษาและพลศึกษา1 ที่ใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 18 แผน 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) และการทดสอบหาค่า t-test แบบ Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. การจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้วิจัย สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.54/81.67 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 พบว่ามีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 24.50 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคแบบเพื่อนช่วยเพื่อนร่วมกับบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.11, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.62)