ฟุตบอล
ผู้วิจัย นายวุฒิกษณ์ ก่อบุญ
ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการที่จำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล โดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2)เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล โดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาผลการจัดรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล โดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอล โดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหันวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ จำนวน26คน ที่กำลังศึกษาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564คัดเลือกโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development)โดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ One-Group Pretest - Posttest Designสำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดรูปแบบการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะชุดฝึกทักษะ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โดยสังเคราะห์เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องผลการสังเคราะห์ทำให้ได้รูปแบบมีองค์ประกอบการสอน 4 ขั้นตอน ซึ่งประกอบด้วย 1)เตรียมการสาธิต 2) ขั้นสาธิต 3)ขั้นสรุปและ 4)ขั้นวัดและประเมินผล ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบอยู่ในระดับมาก
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะที่สร้างขึ้นมีค่าประสิทธิภาพ 81.38/82.42
3. ผลการทดลองใช้การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1กลุ่มทดลองศึกษาชุดฝึกพร้อมกับเรียนรู้จากการสาธิต ซึ่งนักเรียนมีความสนใจและตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสนุก ทำกิจกรรมตามชุดฝึกทักษะได้อย่างถูกต้อง
4. ผลการหาคุณภาพและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1มีความเหมาะสมกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และสามารถนำไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลได้เพราะผู้เรียนวัยนี้เป็นวัยที่เรียนรู้ได้ง่ายเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังให้เกิดขึ้นในผู้เรียนทุกคนสื่อการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับวัยของผู้เรียนเด็กมีความกระตือรือร้นอยากที่จะเรียนรู้และมีความสนใจในกิจกรรมเป็นอย่างดีผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองและมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับกลุ่มเพื่อนหลังจากรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวนนักเรียน 26 คน ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 32.92 คิดเป็นร้อยละ 82.31และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1มีประสิทธิภาพของกระบวนการ 81.15/82.31และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้กีฬาฟุตบอลโดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตร่วมกับชุดฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก