การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะ เด็กปฐมวัย
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครูที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย
ชื่อผู้วิจัย นางสาวสายใจ ธรรมาวุธ
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล 4 มหาราช กองการศึกษาเทศบาลเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย 2. เพื่อเสนอรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย 3. เพื่อศึกษาความสามารถของครูในการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย ผู้วิจัยใช้เครื่องมือในการศึกษา คือ แบบสอบถาม และการสนทนากลุ่มของครูปฐมวัย จำนวน 22 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครูที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย พบว่า ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย โดยภาพรวมมี ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยแต่ละด้านที่มีการปฏิบัติมากที่สุด คือ การใช้สื่อ เครื่องมือและเทคโนโลยี ในขณะที่ด้านเทคนิคและวิธีการนิเทศการสอน มีความต้องการมากที่สุด ส่วนรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย มีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ 1) แนวคิดของรูปแบบ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ให้จัดการศึกษาเพื่อ ส่งเสริมทักษะการคิด และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการศึกษา 4.0 ของรัฐบาลปัจจุบัน 2) หลักการของรูปแบบมี 4 หลักการ ได้แก่ หลักคุณภาพ หลักการมีส่วนร่วม หลักบูรณาการและความต่อเนื่อง และหลักความทันสมัยของ เทคโนโลยี และข้อมูลที่ถูกต้อง และ 3) การนิเทศการสอน ประกอบด้วยกระบวนการนิเทศ 5 ขั้นตอน ได้แก่ จัดทำข้อมูลสารสนเทศ วางแผนการนิเทศการสอน ใช้สื่อเครื่องมือและเทคโนโลยี จัดกิจกรรมการนิเทศการสอน และประเมินผลการนิเทศการสอน และกลไกลสนับสนุนการนิเทศการสอน มี 3 ด้าน ได้แก่ การใช้เทคนิคและวิธีการนิเทศการสอน การมีส่วนร่วมการนิเทศการสอน และ การวิจัยเพื่อพัฒนาการนิเทศการสอน นอกจากนี้ความเห็นของครูพบว่า รูปแบบนี้มีความเหมาะสม ในการส่งเสริมความสามารถของครูผู้สอนในการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย
ชื่อผู้วิจัย นางสาวสายใจ ธรรมาวุธ
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล 4 มหาราช กองการศึกษาเทศบาลเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย 2. เพื่อเสนอรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย 3. เพื่อศึกษาความสามารถของครูในการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย ผู้วิจัยใช้เครื่องมือในการศึกษา คือ แบบสอบถาม และการสนทนากลุ่มของครูปฐมวัย จำนวน 22 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครูที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย พบว่า ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย โดยภาพรวมมี ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ผลการวิจัยแต่ละด้านที่มีการปฏิบัติมากที่สุด คือ การใช้สื่อ เครื่องมือและเทคโนโลยี ในขณะที่ด้านเทคนิคและวิธีการนิเทศการสอน มีความต้องการมากที่สุด ส่วนรูปแบบการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครู ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย มีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ 1) แนวคิดของรูปแบบ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ให้จัดการศึกษาเพื่อ ส่งเสริมทักษะการคิด และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการศึกษา 4.0 ของรัฐบาลปัจจุบัน 2) หลักการของรูปแบบมี 4 หลักการ ได้แก่ หลักคุณภาพ หลักการมีส่วนร่วม หลักบูรณาการและความต่อเนื่อง และหลักความทันสมัยของ เทคโนโลยี และข้อมูลที่ถูกต้อง และ 3) การนิเทศการสอน ประกอบด้วยกระบวนการนิเทศ 5 ขั้นตอน ได้แก่ จัดทำข้อมูลสารสนเทศ วางแผนการนิเทศการสอน ใช้สื่อเครื่องมือและเทคโนโลยี จัดกิจกรรมการนิเทศการสอน และประเมินผลการนิเทศการสอน และกลไกลสนับสนุนการนิเทศการสอน มี 3 ด้าน ได้แก่ การใช้เทคนิคและวิธีการนิเทศการสอน การมีส่วนร่วมการนิเทศการสอน และ การวิจัยเพื่อพัฒนาการนิเทศการสอน นอกจากนี้ความเห็นของครูพบว่า รูปแบบนี้มีความเหมาะสม ในการส่งเสริมความสามารถของครูผู้สอนในการพัฒนาสมรรถนะการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดของนักเรียนปฐมวัย