การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกด คำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ
ประชากรที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ จำนวน 37 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าที (t-test) ของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.50/82.00 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ พบว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกด คำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ
ประชากรที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ จำนวน 37 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าที (t-test) ของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.50/82.00 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ พบว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนสะกดคำควบกล้ำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด