เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
โรงเรียนอนุบาลอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ
ผู้วิจัย นายวิษณุ ไชยะนา
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ 1) เพื่อศึกษาผลการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศแบบพี่เลี้ยง โรงเรียนอนุบาลอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ 2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจ ด้านการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนอนุบาลอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนและหลังการเสริมสร้างความสามารถครูโดยใช้กระบวนการนิเทศแบบพี่เลี้ยง 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการดำเนินการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศแบบพี่เลี้ยง โรงเรียนอนุบาลอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ การวิจัยครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการประกอบด้วย 4 ขั้นคือ ขั้นวางแผน (Plan) ขั้นปฏิบัติการ (Action) ขั้นสังเกตการณ์ (Observe) และขั้นสะท้อนผล (Reflect) ซึ่งผู้วิจัยได้ออกแบบการวิจัยเป็นแบบสอบวัดผลก่อนและหลังปฏิบัติการ ดำเนินการพัฒนา 2 วงรอบ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ข้าราชการครูโรงเรียนอนุบาลอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 47 คน กลุ่มตัวอย่างคือครูที่มีความสมัครใจต้องการพัฒนาตนเองด้านการวิจัยในชั้นเรียน ที่พร้อมจะรับการนิเทศแบบพี่เลี้ยง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 24 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
ระยะเวลาในการดำเนินการวิจัย ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 แบ่งเป็น 2 วงรอบ วงรอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 วงรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 3 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ 1) แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจด้านการวิจัยในชั้นเรียน จำนวน 30 ข้อ 2) แบบประเมินรายงานการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนมี 2 ฉบับ คือ แบบประเมินรายงานการวิจัยในชั้นเรียนแบบง่าย ใช้ประเมินรายงานการวิจัยในวงรอบที่ 1 และแบบประเมินรายงานการวิจัยในชั้นเรียนเต็มรูปแบบ ใช้ประเมินรายงานการวิจัยในวงรอบที่ 2 3) แบบสัมภาษณ์จำนวน 2 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ฉบับที่ 1 ใช้สัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเพื่อสะท้อนผลการดำเนินการในวงรอบที่ 1 แบบสัมภาษณ์ฉบับที่ 2 ใช้สัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเพื่อสะท้อนผลการดำเนินการในวงรอบที่ 2 4) แบบวัดความพึงพอใจของครู จำนวน 1 ฉบับ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ วิเคราะห์โดยการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ตีความ สรุป และรายงานผลในลักษณะบรรยาย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์โดยใช้สถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ร้อยละ และใช้สถิติ t-test แบบ Dependent Samples และการทดสอบแบบกลุ่มเดียวเทียบกับเกณฑ์ ซึ่งวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป
ผลการวิจัยพบว่า
1. เมื่อดำเนินการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศแบบพี่เลี้ยง เสร็จสิ้นในวงรอบที่ 1 พบว่า ครูสามารถดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนแบบง่ายอยู่ในระดับมาก และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อสิ้นสุดการดำเนินการเสริมสร้างความสามารถครูในวงรอบที่ 2 พบว่า ครูสามารถดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนเต็มรูปแบบอยู่ในระดับมาก และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียน ทำให้ได้รูปแบบการเสริมสร้างความสามารถของครูที่มีประสิทธิภาพ ผู้บริหารเสริมสร้างความสามารถของครูโดยการนิเทศแบบพี่เลี้ยง ครูได้รับคำปรึกษาแนะนำจากวิทยากรและผู้บริหารสถานศึกษา ครูรู้จักวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์และยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์จากวิทยากร ผู้บริหารและเพื่อนร่วมงาน ส่งผลให้สถานศึกษาเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
2. การทดสอบความรู้ความเข้าใจของครูหลังการดำเนินการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศแบบพี่เลี้ยง พบว่าครูทุกคน มีคะแนนความรู้ความเข้าใจผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ (ร้อยละ 70) ของคะแนนเต็ม เมื่อเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการดำเนินการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศแบบพี่เลี้ยง พบว่าครูมีคะแนนเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจหลังการดำเนินการ ( = 24.83, = 1.99) สูงกว่าก่อนการดำเนินการ ( = 13.46, = 2.08) เมื่อทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ความเข้าใจระหว่างก่อนและหลังการดำเนินการพัฒนาครู พบว่าครูมีความรู้ความเข้าใจหลังการดำเนินการเสริมสร้างความสามารถครูสูงกว่าก่อนการดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ครูมีความพึงพอใจต่อการเสริมสร้างความสามารถครูด้านการวิจัยในชั้นเรียนโดยใช้การนิเทศแบบพี่เลี้ยง อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54, = 0.51)