ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา ประถมศึกษาปีที่ 2
ชื่อเรื่อง ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านวังกะพ้อ“เพียรอนุสรณ์”ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563
ผู้วิจัย นางสาวนูรีน กากะ
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1)เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2)เพื่อเปรียบเทียบผลการใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3)เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนบ้านวังกะพ้อ“เพียรอนุสรณ์”ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 16 คน ที่ได้มาแบบเจาะจง เครื่องมือในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบไปด้วย ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา 1 ชุด แบ่งเป็น 5 เล่ม ได้แก่ เล่ม 1 แม่ กก เล่ม 2 แม่ กบ เล่ม 3 แม่ กน เล่ม 4 แม่ กด และเล่ม 5 แม่ กด แบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา แบบเลือกตอบ แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 เรื่อง คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์ประสิทธิ ภาพของชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราทั้ง 5 เล่ม ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 เปรียบเทียบผลการฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ระหว่างหลังเรียนกับก่อนเรียน และการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา
ผลการศึกษา พบว่า 1)ได้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา จำนวน 5 เล่ม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.75/81.46 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 2)นักเรียนที่ได้เรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา มีทักษะการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา โดยรวมอยู่ในระดับมาก
ผู้วิจัย นางสาวนูรีน กากะ
ปีที่วิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1)เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2)เพื่อเปรียบเทียบผลการใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3)เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนบ้านวังกะพ้อ“เพียรอนุสรณ์”ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 16 คน ที่ได้มาแบบเจาะจง เครื่องมือในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบไปด้วย ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา 1 ชุด แบ่งเป็น 5 เล่ม ได้แก่ เล่ม 1 แม่ กก เล่ม 2 แม่ กบ เล่ม 3 แม่ กน เล่ม 4 แม่ กด และเล่ม 5 แม่ กด แบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา แบบเลือกตอบ แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 เรื่อง คำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์ประสิทธิ ภาพของชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราทั้ง 5 เล่ม ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 เปรียบเทียบผลการฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ระหว่างหลังเรียนกับก่อนเรียน และการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา
ผลการศึกษา พบว่า 1)ได้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา จำนวน 5 เล่ม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.75/81.46 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 2)นักเรียนที่ได้เรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา มีทักษะการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกอ่านและฝึกเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตรา โดยรวมอยู่ในระดับมาก