บริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ชื่อผู้วิจัย : นางกฤติกา อินใหม่
ปีที่วิจัย : 2563-2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อหารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2) เพื่อเปรียบเทียบคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาระหว่างก่อนและหลังการพัฒนาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงเรียนตะแพนพิทยาที่มีต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือครูจำนวน 12 คน นักเรียนจำนวน 89 คน คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 9 คน ผู้ปกครองจำนวน 89 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1)แบบประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาสำหรับผู้เชี่ยวชาญ 2)แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับบุคลากรที่มีต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3)แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับคณะกรรมการสถานศึกษาที่มีต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4)แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5)แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบ ได้แก่ Paired – Sample t – Test
ผลการวิจัยพบว่า
1)รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีองค์ประกอบดังนี้ 1)วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 2)เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ 3)กลไกการดำเนินงานของรูปแบบ 4)รูปแบบที่ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาใช้ในการบริหารจัดการสถานศึกษาเฉพาะบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือรูปแบบ SST Model เป็นการบริหารสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยา โดยใช้หลักการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (S : SBM) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (S : SEPM) และการทำงานเป็นทีมของครูโรงเรียนตะแพนพิทยา ( T : Tapan Teamwork) ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญพบว่ารูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงค่าความเหมาะสมอยูในระดับมากที่สุด และมีค่าดรรชนีความสอดคล้อง(IOC)มีค่าตั้งแต่ 0.80 – 1.00
2) ผลจากการทดลองใช้รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง SST Modelที่สร้างและพัฒนาขึ้น พบว่า ในภาพรวมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า
2.1) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ของนักเรียนภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.2) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านซื่อสัตย์สุจริตของนักเรียนภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านมีวินัยของนักเรียนภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.4) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านใฝ่เรียนรู้ของนักเรียนภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.5) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านอยู่อย่างพอเพียงของนักเรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.6)คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านมุ่งมั่นในการทำงานของนักเรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.7) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักความเป็นไทยภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2.8) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านมีจิตสาธารณะของนักเรียนภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2564 สูงกว่าภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2564 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3)ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโรงเรียนตะแพนพิทยามีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1.รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบSST ส่งผลให้คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนสูงขึ้น ควรนำผลการวิจัยนี้ไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
2.การนำรูปแบบรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบ SST ไปใช้ให้คำนึงถึงบริบท ข้อจำกัด และความพร้อมของแต่ละโรงเรียน
3.รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบSST ส่งผลให้คุณลักษณะอันพึงประสงค์สูงขี้น สถานศึกษาควรนำข้อมูลนี้ไปวางแผนในการจัดการบริหารสถานศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในด้านต่างๆให้สูงขึ้น โดยใช้รูปแบบการวิจัยนี้
ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
1..ควรนำรูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรูปแบบ SST ไปใช้กับโรงเรียนต่างๆ ทีมีบริบทใกล้เคียงกัน เพื่อนำข้อสนเทศที่ได้มาพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น
2.ควรมีงานวิจัยต่อยอดงานวิจัยการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อส่งเสริมหลักปรัชญาเของเศรษฐกิจพอเพียงภายในโรงเรียนตะแพนพิทยาให้ยั่งยืนต่อไป
3.ควรมีงานวิจัยการบริหารจัดการสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะของนักเรียนโรงเรียนตะแพนพิทยาโดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง