การสอนเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน
ชื่องานวิจัย การสอนเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 25๖๒
ชื่อผู้วิจัย นางสาวภัทร์ฐิตา กำหนดความ
ความสำคัญ และที่มา
ภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความสำคัญ และจำเป็นในการสื่อสารของมนุษย์ การสื่อสารของมนุษย์ใช้ทักษะที่สำคัญหลายทักษะที่จำเป็นได้แก่ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ปัจจุบันพบว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่งมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียน ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากสมองซีกซ้ายบกพร่อง หรือมีความยากลำบากในการจัดกระทำข้อมูล นักเรียนจะแสดงพฤติกรรมด้านการอ่าน ดังนี้ อ่านช้า อ่านเสียงผิดเพี้ยน ประสมคำไม่ได้ จำรายละเอียดของคำไม่ได้ อ่านข้ามคำที่อ่านไม่ได้ อ่านตกหล่น หรืออ่านเพิ่มคำ ผันเสียงวรรณยุกต์สับสน หรือผันไม่ได้ อ่านเสียงดังอ้อมแอ้มอยู่ในลำคอ แทนที่คำที่อ่านไม่ออกด้วยคำอื่น อ่านตะกุกตะกัก ต้องสะกดไปด้วยระหว่างที่อ่าน อ่านกลับคำ สับสนมาตราตัวสะกดต่าง ๆ อ่านคำควบกล้ำไม่ได้ สับสนเสียงสระโดยเฉพาะสระประสม สระลดรูป ขาดสมาธิในการเรียน ด้านการเขียน นักเรียนจะเขียนช้า เขียนตัวอักษรกลับหลัง วนหัวพยัญชนะหลายรอบ สะกดคำผิดบ่อยแม้แต่คำง่าย ๆ เขียนแล้วลบบ่อย เขียนแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง เขียนเพิ่มหรืออาจเขียนตกหล่น วางสระและวรรณยุกต์ไม่ถูกที่ เขียนตัวอักษรสลับกัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้นักเรียนเหล่านี้ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน ถึงแม้นักเรียนจะมีระดับสติปัญญาเหมือนนักเรียนปกติอื่นๆ ก็ตาม แต่หากนักเรียนกลุ่มนี้ได้รับความช่วยเหลือให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสม ก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับนักเรียนปกติ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคำและการเขียนให้ได้มากขึ้นของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1โดยใช้นักเรียนจำนวนทั้งหมด ๕ คน โดยใช้คำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ จำนวน 11๕ ชุดกิจกรรม ฝึกอ่าน และเขียนประโยค มีการบันทึกคะแนนเป็นตาราง และสรุปผลการเปรียบเทียบการอ่าน และสะกดคำเป็นความเรียง
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคำและการเขียนให้ได้มากขึ้น
ตัวแปรที่ศึกษา
จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ๕ คน
กรอบแนวคิดในการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อการสอนเสริมเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
จำนวน ๕ คน ผู้วิจัยได้ทำแบบฝึกอ่าน สะกดคำเกี่ยวกับวิชาภาษาไทย ซึ่งมีความยากง่ายกับระดับชั้นของนักเรียนโดยใช้คำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ จำนวน 11๕ ชุดกิจกรรม และใช้การเสริมแรงโดยใช้การยกย่องชมเชย และให้คะแนนระหว่างทำกิจกรรม เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านสะกดคำและการเขียนให้ได้มากขึ้นของนักเรียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนอ่านสะกดคำ และเขียนคำได้ถูกต้อง
2. มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยสูงขึ้น
3. นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในเรื่องการอ่านได้
ขอบเขตการวิจัย
ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการสร้างแบบฝึกเพื่ออ่านสะกดคำและการเขียนคำวิชาภาษาไทย โดยใช้คำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ จำนวน 11๕ ชุดกิจกรรม ฝึกอ่าน และเขียนประโยค ในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในชั่วโมงซ่อมเสริมตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ มีขอบเขตการวิจัยครั้งนี้
1. จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน ๕ คน
2. เนื้อหาวิชาภาษาไทย คำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ จำนวน 11๕ ชุดกิจกรรม
วิธีดำเนินการวิจัย
ระยะเวลาในการดำเนินงาน
๑-๑๕ พ.ย. ๖๒ - ศึกษาสภาพปัญหา และวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา
๑๖-๒๐ พ.ย. ๖๒ - เลือกลุ่มเป้าหมายนักเรียนชั้น ป. 1 จำนวน ๕คน
พ.ย.๖๒ -ก.พ.๖๓ - เก็บข้อมูล สอนเสริมและ ทดสอบความสามารถใน
การอ่าน และการเขียน
มี.ค.๖๓ - สรุปวิเคราะห์ผลการวิจัยและจัดทำรูปเล่ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. ชุดคำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ จำนวน 11๕ ชุดกิจกรรม
2. การเสริมแรงระหว่างปฏิบัติกิจกรรมคำยกย่องชมเชยการให้คะแนน
3. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนจำนวน ๕ คน จากการอ่านและเขียน คำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ จำนวน 11๕ ชุด
ชุดกิจกรรมที่ 1-๑๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ 80
ชุดกิจกรรมที่ 1๑-๒๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๘๐
ชุดกิจกรรมที่ ๒1-๓๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๖๐
ชุดกิจกรรมที่ ๓1-๔๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๘๐
ชุดกิจกรรมที่ ๔1-๕๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ชุดกิจกรรมที่ ๕1-๖๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ชุดกิจกรรมที่ ๖1-๗๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๘๐
ชุดกิจกรรมที่ ๗1-๘๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ชุดกิจกรรมที่ ๘๑-๙๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ชุดกิจกรรมที่ ๙๑-๑๐๐ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
ชุดกิจกรรมที่ 1๐๐-๑๑๕ นักเรียนสามารถอ่านสะกดคำ และเขียนได้คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐
สรุปผลการศึกษาวิจัย
จากการศึกษา และวิเคราะห์คะแนนที่ได้จากการทำชุดกิจกรรม เกี่ยวกับฝึกเพื่ออ่านสะกดคำและการเขียนคำวิชาภาษาไทย โดยใช้คำบัญชีพื้นฐาน ป.๑ คิดได้ค่าร้อยละ ๘๙.๐๙ แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีพัฒนาด้านการอ่าน สะกดคำ และการเขียน เพิ่มขึ้น นักเรียนอ่านถูกต้องและสะกดคำ ได้ถูกต้อง แต่ยังขาดความมั่นใจในการออกเสียงและอ่านไม่คล่อง ทั้งนี้ในการใช้แบบฝึกนักเรียนสามารถทำคะแนนได้ดีตามลำดับเป็นที่น่าพอใจ และจากการวิเคราะห์ผลการทดสอบเป็นรายบุคคลยังพบว่ามีนักเรียนที่เรียนอ่อนในวิชาภาษาไทยมีพัฒนาการในด้านการอ่าน การเขียนดี ขึ้นตามลำดับ รวมทั้งในการจัดการเรียนการสอน การเสริมแรงขณะปฏิบัติกิจกรรมช่วยให้นักเรียนมีกำลังใจ และทำงานได้คะแนนดีขึ้นด้วย
ข้อเสนอแนะ
1. การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านสะกดคำ อาจใช้รูปแบบอื่นนอกจากชุดกิจกรรมชุดที่ หลากหลาย ตามหลักภาษาไทย โดยอาจจะทำได้ในรูปของการเขียนตามคำบอก จับคู่โยงภาพกับคำก็ได้ตามแต่ผู้วิจัยจะจัดทำ
2. การให้กำลังใจ คำยกย่อง ชมเชย หรือแม้แต่การใช้สื่อการเรียนการสอนเข้าช่วยในการสอนอ่านสะกดคำ และการเขียน ทำให้นักเรียนสนุกกับการเรียนวิชาภาษาไทยมากยิ่งขึ้น