เผยแพร่ผลงานวิชาการ
รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
โรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1
ชื่อเรื่อง : การประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ในรูปแบบออนไลน์ การบริหารสถานศึกษา ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยแบบจำลองซิปป์ (CIPP Model)
ปี : 2565
บทคัดย่อ
การประเมินผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ในรูปแบบออนไลน์ การบริหารสถานศึกษา ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยแบบจำลองซิปป์ (CIPP Model) ในด้านสภาพแวดล้อม (Context) ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Elementary Factors) ด้านกระบวนการ (Process) และด้านผลผลิต (Outcome) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง ผู้บริหารจำนวน 5 คน ครูประจำชั้นประถมศึกษาตอนปลาย จำนวน 32 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 347 คน ของโรงเรียนอนุบาลวัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ปีการศึกษา 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินสรุปได้ดังนี้
1. ด้านสภาพแวดล้อม พบว่า ผู้บริหาร ครู และนักเรียน มีความคิดเห็นว่าในภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้บริหารคิดว่า โครงการ /แผนงาน/กิจกรรม/การปฏิบัติงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีความเหมาะสม โดยมีความหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนครูคิดว่า นอกจากโครงการ/แผนงาน/กิจกรรม/การปฏิบัติงานของระบบดูแลนักนักเรียนมีความเหมาะสมแล้วในส่วนของวัตถุประสงค์มีความชัดเจนมีทางเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และนักเรียนมีความคิดเห็นว่า กิจกรรมป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
2. ด้านปัจจัยเบื้องต้น พบว่า ผู้บริหาร มีความคิดเห็นในภาพรวมว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผู้บริหารเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามโครงการ และสถานศึกษามีระบบการเยี่ยมบ้านนักเรียนแบบออนไลน์เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนครู และนักเรียน มีความคิดเห็นในภาพรวมว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ครูคิดว่า ผู้บริหารเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีความเหมาะอยู่ในระดับมาก และนักเรียนคิดว่า ครู คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามโครงการ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
3. ด้านกระบวนการ พบว่า ผู้บริหาร มีความคิดเห็นในภาพรวมว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีการวางแผนกระบวนการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาให้ความรู้เกี่ยวกับระบบช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนครู และนักเรียน มีความคิดเห็นในภาพรวมว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีการวางแผนกระบวนการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
4. ด้านผลผลิต พบว่า ผู้บริหาร มีความคิดเห็นในภาพรวมว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ครูที่ปรึกษารู้จักข้อมูลนักเรียนรายบุคคลอย่างรอบด้าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนครูและนักเรียน มีความคิดเห็นในภาพรวมว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ครูที่ปรึกษารู้จักข้อมูลนักเรียนรายบุคคลอย่างรอบด้าน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
ส่วนผลการศึกษาความพึงใจต่อโครงการส่งเสริมระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้วยแบบจำลองซิปป์ (CIPP Model) พบว่า ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก จากการศึกษายังพบว่า มีนักเรียนบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ เนื่องจากครอบครัวของนักเรียนขาดความพร้อมเรื่องของอุปกรณ์สื่อสาร อีกทั้งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้เป็นการเก็บรวมจากนักเรียนเฉพาะชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และจากครูประจำชั้นประถมศึกษาตอนปลาย เท่านั้น ดังนั้นข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้จึงไม่คลอบคลุมความเห็นของบุคลากร และนักเรียนทั้งหมด