รูปแบบการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้ “ORAPIN Model By PLC” ของโรงเรียนบ้
ของโรงเรียนบ้านบึงพิชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต ๒
………………………………………………………..
ปัญหาเด็กและเยาวชนในสังคมไทย พบว่าเด็กๆ ที่มาจากครอบครัวยากจน ไม่มีเงิน
เรียนหนังสือ ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน หลายคนไม่มีโอกาสเรียนต่อในระดับสูง เพราะไม่มีทุนศึกษาต่อ และหลายคนมานะเรียนจบแล้วไม่มีงานทำ เด็กหลายคนต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน ฯลฯ อันเกิดจากครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะแตกแยก เกิดการหย่าร้าง ต้องแยกทางกัน เด็กเหล่านี้จะมีปมด้อย และทั้งด้อยโอกาสในทางสังคม เมื่อเด็กไม่มีพ่อแม่ หรือมี แต่ก็ขาดความรัก ความอบอุ่น ก็จะใฝ่หาสิ่งอื่นมาเติมเต็มให้กับตนเองได้มีความสุข เช่น คบหา มั่วสุมกับเพื่อนฝูง กระโจนเข้าหาอบายมุข เล่นการพนัน ดื่มสุรา ติดบุหรี่ ซ้ำร้ายเสพยาบ้า เมื่อไม่มีเงินเที่ยวกลางคืน เล่นการพนัน หรือไม่มีเงินเพื่อซื้อยาบ้า ก็หาวิธีหาเงินด้วยการก่ออาชญากรรม ลักขโมย
เด็กและเยาวชนไทยถูกหล่อหลอมให้ยึดติดกับบริโภคนิยม มีพฤติกรรมการกินการอยู่ฟุ้งเฟ้อ มีการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ใช้ชีวิตแสดงถึงความทันสมัย
การออกแบบนวัตกรรม “ORAPIN Model By PLC” ของโรงเรียนบ้านบึงพิชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต ๒ ในครั้งนี้ ผู้สร้างได้ ดำเนินการออกแบบเพื่อให้ได้มาซึ่งรูปแบบการพัฒนาผู้เรียน เพื่อสนองเจตนารมย์แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ หมวดที่ ๔ แนวการจัดการศึกษา มาตราที่ ๒๒ การจัดการศึกษาต้องยึดหลักที่ว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาจึงต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติเต็มศักยภาพ ซึ่งเน้นให้ครูจัดกิจกรรมที่มีความสอดคล้องในทุกระดับชั้นโดยมีวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย และกิจกกรม ดังนี้
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดี เป็นคนเก่ง มีคุณธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ
๒. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ ทำกิจกรรมตามความถนัดละความสนใจ พร้อมที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข
๓. เป็นการส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเองและส่วนรวมและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
กลุ่มเป้าหมาย
๑. นักเรียนโรงเรียนบ้านบึงพิชัย
กิจกรรม
จัดกิจกรรมชุมนุม แบ่งกลุ่มตามความสนใจของนักเรียนในทุกวันพุธ โดยการให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง โดยแบ่งกิจกรรมตามชุมนุม ดังนี้
ชุมนุมที่ ๑ การทำอาหาร
ชุมนุมที่ ๒ สิ่งประดิษฐ์
ชุมนุมที่ ๓ ดนตรี
ชุมนุมที่ ๔ ศิลปะ
ชุมนุมที่ ๕ กีฬา