การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกกิจกรรม
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกกิจกรรม
เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6
โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
ผู้รายงาน นางสุภาพร แก้วจันทร์
หน่วยงาน โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้
แบบฝึกกิจกรรมเรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน โดยใช้แบบฝึกกิจกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 36 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 40 คน โดยวิธีเลือกสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกกิจกรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 แบบฝึก ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 81.16 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้เป็นข้อสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 60.6 การหาประสิทธิภาพแบบฝึกกิจกรรมใช้เกณฑ์หาประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80/80 ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. วิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกกิจกรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.16/60.6 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. ผลที่เกิดกับนักเรียนหลังการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกกิจกรรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 พบว่านักเรียนคิดเป็น มีทักษะในเรื่องที่เรียน ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน สูงขึ้นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 40.58
3. เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกกิจกรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6
โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
ผู้รายงาน นางสุภาพร แก้วจันทร์
หน่วยงาน โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้
แบบฝึกกิจกรรมเรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน โดยใช้แบบฝึกกิจกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 36 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 40 คน โดยวิธีเลือกสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบฝึกกิจกรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน จำนวน 10 แบบฝึก ที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 81.16 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้เป็นข้อสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 60.6 การหาประสิทธิภาพแบบฝึกกิจกรรมใช้เกณฑ์หาประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80/80 ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. วิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกกิจกรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.16/60.6 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. ผลที่เกิดกับนักเรียนหลังการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกกิจกรรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 พบว่านักเรียนคิดเป็น มีทักษะในเรื่องที่เรียน ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน สูงขึ้นค่าเฉลี่ย ร้อยละ 40.58
3. เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกกิจกรรม เรื่อง กฎหมายในชีวิตประจำวัน ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80