การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ บูรณาการตามแนวคิดพหุ
Narunard Cherdsang
กองการศึกษา เทศบาลเมืองท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Education Division, Tha Kham Municipality, Phunphin District, Surat Thani
E-mail: koonad29@gmail.com
บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้บูรณาการตามแนวคิดพหุปัญญา 2) หาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 3) เปรียบเทียบพัฒนาการด้านสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ก่อนและหลังเรียน และ 4) เปรียบเทียบพัฒนาการด้านสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ระหว่างการเรียนรู้ตามแนวคิดพหุปัญญาและโดยใช้สมองเป็นฐาน โดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาเอกสารและแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 2) การพัฒนารูปแบบ 3) การทดลองใช้รูปแบบ และ 4) การประเมินผลรูปแบบ. ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองท่าข้าม 4 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 63 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 20 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่มโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบความสามารถด้านสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที ผลการวิจัย พบว่า 1) ประสิทธิภาพของการเรียนรู้ตามแนวพหุปัญญา มีค่าเท่ากับ 84.75 และโดยใช้สมองเป็นฐาน มีค่าเท่ากับ 80.42. 2) ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ตามแนวพหุปัญญา มีค่าเท่ากับ 0.7355 แสดงว่า เด็กมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.55 และการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน มีค่าเท่ากับ 0.6627 แสดงว่า เด็กมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.27 3) หลังการเรียนรู้ตามแนวพหุปัญญาเด็กมีพัฒนาการสูงกว่าก่อนเรียน และหลังเรียนเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เด็กมีพัฒนาการสูงกว่าก่อนเรียน 4) เด็กที่เรียนรู้ตามแนวพหุปัญญามีพัฒนาการด้านสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ สูงกว่าการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
คำสำคัญ: การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้, แนวคิดพหุปัญญา, การใช้สมองเป็นฐาน