แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้การ์ตูน ร่วมKWDL
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานและความต้องการของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เท่ากับ 1.00 แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ พิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน เท่ากับ 1.00 2) แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม ผ่านการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.84 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.29 3) แบบประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้ ผ่านการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.86 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.30 แบบประเมินคุณภาพคู่มือประกอบการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด 4.92 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.18 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ พิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คนหาค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.30–0.60 หาค่าอำนาจจำแนก (r)อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.30 และหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.87 5) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน แบบอัตนัย จำนวน 5 ข้อ 50 คะแนนพิจารณาความสอดคล้องกับจุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม (IOC) โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คนหาค่าความยากง่าย (PE) อยู่ระหว่าง 0.46–0.55 หาค่าอำนาจจำแนก (D) อยู่ระหว่าง 0.60 – 0.76 และหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.99 5) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ทุกเล่ม ค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ 0.91
ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียน ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญเห็นความสำคัญต่อการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค
KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เล่มที่ 1-5 โดยเฉลี่ยรวมมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้จาก 80/80 ได้เท่ากับ 81.86/81.81 3) การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการเปรียบเทียบคะแนนก่อนการเรียนรู้และหลังการเรียนรู้ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ สูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนการเรียนรู้ โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังการเรียนรู้เท่ากับ 25.00 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.33 และคะแนนเฉลี่ยก่อนการเรียนรู้ เท่ากับ 15.59 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.98จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน 4) ผลการศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน (หลังเรียน) ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยใช้การ์ตูน ร่วมกับเทคนิค KWDL เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง ทศนิยม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ มีคะแนนเฉลี่ยหลังการเรียน 42.72 คิดเป็นร้อยละ 85.44 จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน และความสามารถในการแก้ปัญหาตามขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยใช้เทคนิค KWDL ในภาพรวม อยู่ในระดับดี 2.74 คิดเป็นร้อยละ 91.15 และ 5) ผลการวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อแบบฝึกเสริมทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด 4.68 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.49