การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพลศึกษาของนักเรียน ชั้นประถมศึก
ผู้วิจัย นาวิน ผดุลย์ศิลป์
ปีการศึกษา 2563
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปวิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ หลังจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปวิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป วิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูปวิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 เล่มกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จำนวน 37 คน เครื่องมือที่ใช้ใน การเก็บรวบรวมข้อมูลคือ 1) บทเรียนสำเร็จรูปวิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จำนวน 8 เล่ม 2) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียน จากบทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 8 เรื่องๆ ละ 10 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 40 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบท T-Test แบบ Dependent Samples
ผลการศึกษาพบว่า 1. ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 2. ผลการเรียนของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยบทเรียนสำเร็จรูปวิชาพลศึกษา เรื่อง กรีฑา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีผลการเรียนพัฒนาขึ้น 3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมติฐานการศึกษา ข้อที่ 3 4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๑ (วัดเทวสังฆาราม) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาพลศึกษา เรื่องกรีฑา ทั้ง 8 ชุด อยู่ในระดับมาก