ารพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นายชิษณุพงศ์ จอนรบ
ปีการศึกษา ภาคเรียนที่ 2/2563
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการ
ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
(2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ (4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชุดนี้
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเทศบาล 1(วัดสัตตนารถปริวัตร) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster random sampling) 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน แบบแผนการวิจัย คือ One Group Pretest – Posttest Design เครื่องมือร่วมกับ ประกอบด้วย 1) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) (วิทยาการคำนวณ) และแบบสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาก่อนการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2) แบบประเมินคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
3) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง เรียนง่ายกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน 5) แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติร่วมกับในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (bar{x}) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบสมมุติฐานแบบ t-test dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา
(Content Analysis)
สรุปผลการวิจัย
ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียน
ด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ครูผู้สอนและผู้เชี่ยวชาญต้องการให้มีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถ
ในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียงจากง่ายไปหายาก
มีการทดสอบทดลองเข้าใจง่ายมีภาพประกอบ มีการจัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคลโดยให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง
ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้
เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิ์ภาพ (E1/E2) สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เท่ากับ 83.50/84.44 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียน
ด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่าง
มีนัยสำคัญที่ระดับ .05
ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนด้วยตนเองร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างความรู้และทักษะปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นอยู่ในระดับดีมาก
ผลการพัฒนาครั้งนี้เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ทั้ง 4 ข้อ