เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ชื่อผลงาน การพัฒนาแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD
เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางสาวนริสรา นาคแท้
โรงเรียนประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
ปี พ.ศ. 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1)หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ตามเกณฑ์ 80/802) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนประทายอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ห้องเรียนมีนักเรียน จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ1)แบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง หลักการใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทดสอบสมมติฐาน คือ ค่าสถิติทดสอบ t – test Dependent Sample
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.24/82.34 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนโดยแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STADเรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่าความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D = 0.76)
เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางสาวนริสรา นาคแท้
โรงเรียนประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
ปี พ.ศ. 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1)หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ตามเกณฑ์ 80/802) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนประทายอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 ห้องเรียนมีนักเรียน จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ1)แบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง หลักการใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทดสอบสมมติฐาน คือ ค่าสถิติทดสอบ t – test Dependent Sample
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.24/82.34 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนโดยแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือ เทคนิค STAD เรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อแบบฝึกทักษะประกอบการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STADเรื่อง การใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่าความพึงพอใจรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D = 0.76)