ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Lang
บทคัดย่อ
หัวข้อวิจัย ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นายยิ่งวัฒน์ พิสุทธิ์จิระธาดา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนราษีไศล
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีการศึกษา 2562
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อวิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT)
เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 34 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) จำนวน 7 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 14 ชั่วโมง
2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 77.20/76.50 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( X ̅ = 4.58, "S.D.= 0.49" )
หัวข้อวิจัย ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นายยิ่งวัฒน์ พิสุทธิ์จิระธาดา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนราษีไศล
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีการศึกษา 2562
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อวิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT)
เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนราษีไศล อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 34 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) จำนวน 7 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 14 ชั่วโมง
2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 77.20/76.50 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ Communicative Language Teaching (CLT) เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( X ̅ = 4.58, "S.D.= 0.49" )