การพัฒนาการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวสายรุ้ง พิมพา
หน่วยงาน : โรงเรียนร่มไทรวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง โครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน โดยผู้วิจัยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยการใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา ตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนร่มไทรวิทยา อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร จำนวน 34 คน ได้มาด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 4 ชนิด ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้และคู่มือการใช้ โดยแผนการจัดการเรียนรู้มีการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 แผน ใช้เวลาสอน 30 ชั่วโมง 2) ชุดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยแต่ละชุด มีแบบทดสอบย่อยก่อนเรียนและหลังเรียนชุดที่ 1-10 ชุด ชุดละ 10 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โครงสร้างอะตอมและธาตุของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 35 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐาน คือ การทดสอบของวิลค็อกซัน ( Wilcoxon Match Paired Sign Rank test )
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่อง โครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 89.11/86.55 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวสายรุ้ง พิมพา
หน่วยงาน : โรงเรียนร่มไทรวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง โครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน โดยผู้วิจัยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยการใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา ตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนร่มไทรวิทยา อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร จำนวน 34 คน ได้มาด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 4 ชนิด ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้และคู่มือการใช้ โดยแผนการจัดการเรียนรู้มีการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 แผน ใช้เวลาสอน 30 ชั่วโมง 2) ชุดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยแต่ละชุด มีแบบทดสอบย่อยก่อนเรียนและหลังเรียนชุดที่ 1-10 ชุด ชุดละ 10 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โครงสร้างอะตอมและธาตุของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 35 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐาน คือ การทดสอบของวิลค็อกซัน ( Wilcoxon Match Paired Sign Rank test )
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่อง โครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 89.11/86.55 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยการจัดกิจกรรมแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างอะตอมและธาตุ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนร่มไทรวิทยา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด