เผยแพร่ผลงาน
ผู้วิจัย นายชัยพิพัฒน์ แหวนหล่อ
ปีการศึกษา 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริม ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราษีไศล ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาประวัติศาสตร์ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ t-test (Dependent Samples)และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีชื่อว่า “TPRAPE Model” มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอนและเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ กระบวนการเรียนการสอน มี 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการเลือกหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา(Topic Selection: T) 2) ขั้นการวางแผน (Planning: P) 3) ขั้นการเข้าถึงข้อมูล(Retrieving: R) 4) ขั้นวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล(Analysis and Synthesis: A) 5) ขั้นนำเสนอข้อมูล (Presentation: P) และ 6) ขั้นการประเมิน(Evaluating: E) โดยที่รูปแบบ การเรียนการสอนประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (TPRAPE Model) ที่พัฒนาขึ้นมานี้ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.97/80.24 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. หลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอน พัฒนาขึ้นในช่วงเวลาระหว่างเรียน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยภาพรวมอยู่ในระดับ เห็นด้วยมากที่สุด