กิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก5ขั้น
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น
เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
ชื่อผู้รายงาน : นางสาวอัยรีน สมาแอ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ
โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ปีที่ศึกษา : 2563
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
รายงานการศึกษาในครั้งนี้ผู้รายงานมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น
(3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น กลุ่มตัวอย่างในการพัฒนาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ดำเนินการทดลองเป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1. คู่มือการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2. แผนการจัดประสบการณ์กิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 25 แผน 3. แบบประเมินวัดทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการศึกษาพบว่า
1. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.85/88.07 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. เมื่อเปรียบเทียบทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น ก่อนการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 34.52 หรือร้อยละ 62.76 .และ หลังการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 50.93 หรือร้อยละ 92.60 ตามลำดับ แสดงให้เห็นค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และมีค่าพัฒนา เท่ากับ 16.41
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด พบว่า ข้อคำถามที่ค่าคะแนนสูงสุด คือ นักเรียนชอบกิจกรรมสนุกกับการเล่าเรื่องจากภาพประกอบเพลงหรือไม่ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.89 และข้อคำถามที่ค่าคะแนนต่ำสุด คือ นักเรียนมีความพึงพอใจและต้องการเข้าร่วมกิจกรรมที่ครูจัดขึ้น มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.67 นักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ทั้ง 5 สัปดาห์ เฉลี่ย เท่ากับ 2.81 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
สรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาการความเชื่อมั่นในตนเอง ได้เป็นอย่างดี
ชื่อเรื่อง : การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น
เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
ชื่อผู้รายงาน : นางสาวอัยรีน สมาแอ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ
โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
ปีที่ศึกษา : 2563
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
รายงานการศึกษาในครั้งนี้ผู้รายงานมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น
(3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น กลุ่มตัวอย่างในการพัฒนาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 จำนวน 29 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ดำเนินการทดลองเป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1. คู่มือการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 2. แผนการจัดประสบการณ์กิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 25 แผน 3. แบบประเมินวัดทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการศึกษาพบว่า
1. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) มีค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.85/88.07 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. เมื่อเปรียบเทียบทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น ก่อนการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 34.52 หรือร้อยละ 62.76 .และ หลังการจัดกิจกรรม มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 50.93 หรือร้อยละ 92.60 ตามลำดับ แสดงให้เห็นค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และมีค่าพัฒนา เท่ากับ 16.41
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด พบว่า ข้อคำถามที่ค่าคะแนนสูงสุด คือ นักเรียนชอบกิจกรรมสนุกกับการเล่าเรื่องจากภาพประกอบเพลงหรือไม่ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.89 และข้อคำถามที่ค่าคะแนนต่ำสุด คือ นักเรียนมีความพึงพอใจและต้องการเข้าร่วมกิจกรรมที่ครูจัดขึ้น มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.67 นักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ทั้ง 5 สัปดาห์ เฉลี่ย เท่ากับ 2.81 อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก
สรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยใช้เพลงเป็นสื่อควบคู่ขั้นตอนการฝึก 5 ขั้น เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาและพัฒนาการความเชื่อมั่นในตนเอง ได้เป็นอย่างดี