เผยแพร่ผลงานวิจัย
ชื่อวิจัย : การใช้กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ “แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด” ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาบัญชีเบื้องต้นของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีพัทลุง
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวเศษวนิตย์ ด้วงชู
ปีการศึกษา : 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการใช้กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ "แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด" ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาบัญชีเบื้องของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีพัทลุง ในชั้นเรียนให้มีผลสมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดังนั้นการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนต้องมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ทั้งทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ โดยถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ในด้านการเรียนรู้ทางวิชาการบัญชีเบื้องต้นนั้นต้องให้เกิดทั้งความรู้ ทักษะ และเจตคติ ที่ดีในวิชาชีพการบัญชี ฉะนั้นผู้วิจัยจึงได้ตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนของตนให้มีคุณภาพเพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สิ่งที่ผู้เรียนได้รับจากการถ่ายทอดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอนอย่างต่อเนื่องทั้งในห้องเรียนและ ในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และมีนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยผู้วิจัยเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ "แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด" มาช่วยในการแก้ปัญหา ให้ทำการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความพยายามพัฒนากระบวนการเรียนการสอนโดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมคิดร่วมทำและหาวิธีการที่เหมาะสม จะเป็นต้นแบบอันสำคัญยิ่งที่จะยกระดับการเรียนการสอนวิชาบัญชีเบื้องต้นให้มีประสิทธิภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นต่อไป
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการติดตามผลของนักเรียนในการเรียนวิชาบัญชีเบื้องต้น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ปรากฏผลดังนี้
1. คะแนนสอบของนักเรียนก่อนการสอนโดยการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบจับคู่เพื่อนคู่คิดมาเปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลังจากการสอนโดยการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด ปรากฏว่า ผลคะแนนของนักเรียนทั้งชั้นสูงขึ้นทุกคน
2. ค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนสอนได้ 2.43 คะแนน ส่วนค่าเฉลี่ยคะแนนหลังสอนได้ 3.76 คะแนน ปรากฏว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนหลังสอนสูงกว่าก่อนสอน 1.33 คะแนนคิดเป็น 75.2%
3. นักเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียนและมีความสุขในการเรียนพร้อมให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม โดยการใช้กระบวนการทางปัญญา กระบวนการทางสังคม ทำให้ผู้เรียนมีการช่วยเหลือกันและกันและมีความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น
สรุปผลการวิจัย
จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า การใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบจับคู่เพื่อนคู่คิด คือวิธีการสอนโดยการจับคู่ เป็นการสอนที่ให้ผู้เรียนที่มีผลการเรียนดีจับคู่ดูแลและให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีผลการเรียนอ่อน การเรียนวิธีนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีความสามัคคีรักใคร่กัน เกิดความรักความผูกพันกัน มีความสุขในการเรียนรู้ และยังทำให้ผู้เรียนที่มีผลการเรียนดีมองเห็นคุณค่าในตนเองและเกิดความภาคภูมิใจในตนเองที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือเพื่อน ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น โดยผู้สอนได้ใช้ข้อสอบ เรื่อง หลักการวิเคราะห์รายการค้า (ชุดเดิม) มาเป็นแบบทดสอบหลังจากการใช้กระบวนการนี้เนื่องจากเนื้อหาของข้อสอบเป็นเรื่องของความเข้าใจในกระบวนการทำ ไม่ได้เป็นข้อสอบที่ใช้ความจำอย่างเดียว
ข้อเสนอแนะ
1. เนื่องจากเป็นกระบวนการเรียนการสอนแบบจับคู่ อาจจะเกิดเสียงดังรบกวนต่อกันดังนั้นผู้สอนควรควบคุมดูแลอย่างดี
2. ในขณะจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด ผู้สอนต้องคอยสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน และตอบข้อสงสัยของผู้เรียนที่มีปัญหาเพื่อเป็นการเสริมความรู้เพิ่มเติมให้แก่ผู้เรียน
3. ควรมีการศึกษาการใช้การเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อนวิธีอื่นๆ หรือการเรียนแบบมีส่วนร่วม แบบต่างๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าวิธีใดจะเหมาะสมกับการเรียนการสอนมากที่สุดและนำมาใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนในครั้งต่อๆ ไป
ชื่อผู้วิจัย : นางสาวเศษวนิตย์ ด้วงชู
ปีการศึกษา : 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการใช้กระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ "แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด" ในการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาบัญชีเบื้องของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีพัทลุง ในชั้นเรียนให้มีผลสมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดังนั้นการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนต้องมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ทั้งทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ โดยถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ในด้านการเรียนรู้ทางวิชาการบัญชีเบื้องต้นนั้นต้องให้เกิดทั้งความรู้ ทักษะ และเจตคติ ที่ดีในวิชาชีพการบัญชี ฉะนั้นผู้วิจัยจึงได้ตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนของตนให้มีคุณภาพเพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สิ่งที่ผู้เรียนได้รับจากการถ่ายทอดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอนอย่างต่อเนื่องทั้งในห้องเรียนและ ในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง รู้จักแสวงหาความรู้ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และมีนิสัยรักการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยผู้วิจัยเลือกใช้กระบวนการเรียนรู้ "แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด" มาช่วยในการแก้ปัญหา ให้ทำการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความพยายามพัฒนากระบวนการเรียนการสอนโดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมคิดร่วมทำและหาวิธีการที่เหมาะสม จะเป็นต้นแบบอันสำคัญยิ่งที่จะยกระดับการเรียนการสอนวิชาบัญชีเบื้องต้นให้มีประสิทธิภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นต่อไป
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการติดตามผลของนักเรียนในการเรียนวิชาบัญชีเบื้องต้น ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ปรากฏผลดังนี้
1. คะแนนสอบของนักเรียนก่อนการสอนโดยการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบจับคู่เพื่อนคู่คิดมาเปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลังจากการสอนโดยการใช้กระบวนการเรียนรู้แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด ปรากฏว่า ผลคะแนนของนักเรียนทั้งชั้นสูงขึ้นทุกคน
2. ค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนสอนได้ 2.43 คะแนน ส่วนค่าเฉลี่ยคะแนนหลังสอนได้ 3.76 คะแนน ปรากฏว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนหลังสอนสูงกว่าก่อนสอน 1.33 คะแนนคิดเป็น 75.2%
3. นักเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียนและมีความสุขในการเรียนพร้อมให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม โดยการใช้กระบวนการทางปัญญา กระบวนการทางสังคม ทำให้ผู้เรียนมีการช่วยเหลือกันและกันและมีความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น
สรุปผลการวิจัย
จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า การใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบจับคู่เพื่อนคู่คิด คือวิธีการสอนโดยการจับคู่ เป็นการสอนที่ให้ผู้เรียนที่มีผลการเรียนดีจับคู่ดูแลและให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่มีผลการเรียนอ่อน การเรียนวิธีนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีความสามัคคีรักใคร่กัน เกิดความรักความผูกพันกัน มีความสุขในการเรียนรู้ และยังทำให้ผู้เรียนที่มีผลการเรียนดีมองเห็นคุณค่าในตนเองและเกิดความภาคภูมิใจในตนเองที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือเพื่อน ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น โดยผู้สอนได้ใช้ข้อสอบ เรื่อง หลักการวิเคราะห์รายการค้า (ชุดเดิม) มาเป็นแบบทดสอบหลังจากการใช้กระบวนการนี้เนื่องจากเนื้อหาของข้อสอบเป็นเรื่องของความเข้าใจในกระบวนการทำ ไม่ได้เป็นข้อสอบที่ใช้ความจำอย่างเดียว
ข้อเสนอแนะ
1. เนื่องจากเป็นกระบวนการเรียนการสอนแบบจับคู่ อาจจะเกิดเสียงดังรบกวนต่อกันดังนั้นผู้สอนควรควบคุมดูแลอย่างดี
2. ในขณะจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบจับคู่เพื่อนคู่คิด ผู้สอนต้องคอยสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน และตอบข้อสงสัยของผู้เรียนที่มีปัญหาเพื่อเป็นการเสริมความรู้เพิ่มเติมให้แก่ผู้เรียน
3. ควรมีการศึกษาการใช้การเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อนวิธีอื่นๆ หรือการเรียนแบบมีส่วนร่วม แบบต่างๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าวิธีใดจะเหมาะสมกับการเรียนการสอนมากที่สุดและนำมาใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนในครั้งต่อๆ ไป