การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนก้างปลาวิทย
ผู้ประเมิน นายประเสริฐ ธานีรัตน์ ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การประเมินครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนก้างปลาวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 โดยใช้รูปแบบการ ประเมินแบบ CIPP Model ของ Stufflebeam ใน 4 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัย ด้าน กระบวนการ และด้านผลผลิต
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม จานวน 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 การประเมิน โครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนก้างปลาวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 12 (สาหรับบุคลากร) มี 2 ตอน มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .965 และฉบับที่ 2 การประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนก้างปลาวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 (สำหรับนักเรียน) มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .972
การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ประเมินนาคะแนนที่ได้ไปดาเนินการวิเคราะห์ทางสถิติด้วย คอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สาเร็จรูปเพื่อค่าเฉลี่ย (μ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ) ของประชากรและค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของกลุ่มตัวอย่าง นำค่าเฉลี่ยที่ได้จากการวิเคราะห์ไปทำการเปรียบเทียบกับเกณฑ์ เพื่อใช้ในการแปลความหมาย ทั้ง รายข้อ รายด้านและโดยรวม และตัดสินผลการประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเกณฑ์การตัดสิน การประเมิน มีความคิดเห็นด้วยในระดับมาก คือ 3.51 ขึ้นไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
ผลการประเมิน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ด้านกระบวนการ รองลงมาคือ ด้านผลผลิต ด้านบริบท และด้านปัจจัยนำเข้า ตามลำดับ ผลการ ประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนก้างปลาวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 ภาพรวมและรายด้าน เมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินพบว่า ผ่าน เกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า
1. ด้านบริบท โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ความต้องการจำเป็นโครงการ รองลงมา คือ ความเป็นไปได้ของโครงการ และวัตถุประสงค์ของ โครงการ ตามลำดับ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นความต้องการจำเป็นโครงการ คือ นักเรียนมี พฤติกรรมเลียนแบบสิ่งที่ไม่ดี ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ นักเรียนมีผลการเรียนต่า และข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ประเด็นความเป็นไปได้ของโครงการ คือ โรงเรียนกำกับและติดตามโครงการได้ แต่ข้อที่มี ค่าเฉลี่ยตำ่สุด คือ ครูให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ข้อที่มี ค่าเฉลี่ยสูงสุดประเด็นวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ สอดคล้องกับสภาพปัญหาของชุมชนและท้องถิ่น
2. ด้านปัจจัยนำเข้า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย คือ ความพอเพียงด้านทรัพยากรต่าง ๆ รองลงมา คือ ความพร้อมของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามลำดับ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นความพอเพียงด้านทรัพยากรต่าง ๆ คือ มีการจัดระเบียบสภาวะ แวดล้อมในโรงเรียนให้มีความปลอดภัยและเอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียน ข้อที่มีค่าเฉลี่ย ตำ่สุด คือ ข้อมูลเอกสารและเครื่องมือในการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนมี เพียงพอ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ในประเด็นความพร้อมของบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือ ครูเพียงพอใน การจัดการดาเนินงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ผู้บริหารให้ ความสำคัญและเป็นผู้นำในการอำนวยการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
3. ด้านกระบวนการโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดโดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหา น้อย คือ ช่วงเวลาดาเนินงานตามโครงการ รองลงมา คือ กิจกรรมการดำเนินงานตามโครงการ ตามลำดับ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดประเด็นช่วงเวลาดำเนินงานตามโครงการ คือ รายงานผลการ ดำเนินงานโครงการตามระยะเวลาที่กำหนด ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ประเมินผลโครงการตาม ระยะเวลาที่กำหนด ในประเด็นกิจกรรมการดำเนินงานตามโครงการ คือ ครูที่ปรึกษาให้เวลากับ นักเรียนเพื่อปรึกษาปัญหาต่าง ๆ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมนักเรียน จาก การจัดกิจกรรมโฮมรูม
4. ด้านผลผลิตโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดตามความคิดเห็นของ คณะกรรมการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และตามความคิดเห็นของบุคลากร คือ นักเรียนมี ความเป็นประชาธิปไตย และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด นักเรียนไม่เสพสิ่งเสพติด รวมทั้งไม่แสวงหา ผลประโยชน์จากสิ่งเสพติด