การพัฒนารูปแบบการโค้ชเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดประสบการณ์
พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญา ระดับปฐมวัยโรงเรียนบ้านโดด
ชื่อผู้วิจัย : นางอุบลวรรณ หนองเหล็ก
สถานที่ทำงาน : โรงเรียนบ้านโดด ตำบลโดด อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 2
ปีที่พิมพ์ : 2562
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการโค้ชเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญา ระดับปฐมวัย โรงเรียนบ้านโดด มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการโค้ชเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญา ระดับปฐมวัย โรงเรียนบ้านโดด 2) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ของการพัฒนารูปแบบการโค้ชเพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญา ระดับปฐมวัย โรงเรียนบ้านโดด ดำเนินการวิจัยด้วยวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูปฐมวัยโรงเรียนบ้านโดด จำนวน 2 คน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน รวมทั้งสิ้น 11 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบทดสอบ แบบสังเกต แบบสอบถามและประเด็นการสนทนากลุ่มที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน-มาตรฐาน ค่าร้อยละ การทดสอบค่าที (Dependent t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนารูปแบบการโค้ชประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาวิเคราะห์สภาพและประเมินความต้องการจำเป็น 2) การออกแบบและพัฒนารูปแบบ 3) การทดลองใช้รูปแบบ และ 4) การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ การออกแบบและพัฒนารูปแบบโค้ชได้ใช้รูปแบบการโค้ชเอพีซีอี (APCE Coaching Model) ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน คือ องค์ประกอบเชิงหลักการและวัตถุประสงค์ องค์ประกอบเชิงกระบวนการ และองค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำไปใช้ การดำเนินการ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ระยะสร้างความตระหนัก (Awareness Phase: A) ระยะที่ 2 ระยะวางแผนการโค้ช (Planning Phase: P) ระยะที่ 3 ระยะการปฏิบัติการโค้ช (Coaching Phase: P) และระยะที่ 4 ระยะการประเมินผลการโค้ช (Evaluating Phase: E)
2. ผลการทดลอง พบว่า รูปแบบการโค้ชเอพีซีอี (APCE Coaching Model) มีประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ ก่อนและหลังการทดลอง ผู้วิจัยมีสมรรถนะการโค้ชแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ครูมีสมรรถนะด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ครูมีทักษะด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 รวมทั้งครูมีความพึงพอใจของต่อรูปแบบการโค้ช เพื่อพัฒนาสมรรถนะครูด้านการจัด-ประสบการณ์การเรียนรู้พัฒนาเด็กรอบด้านตามแนวทางแบบพหุปัญญาในระดับ มาก