LASTEST NEWS

26 พ.ย. 2567สพฐ. เข้ม สั่งครูล่วงละเมิดนักเรียนออกจากราชการทันที ย้ำดูแลสภาพจิตใจเด็กเป็นสำคัญ 26 พ.ย. 2567สพฐ.เล็งทำบัตรสุขภาพนักเรียนออนไลน์ 26 พ.ย. 2567ทำไมครูส่วนใหญ่ ไม่สนใจสมัครสอบเป็นศึกษานิเทศก์ 26 พ.ย. 2567ก.พ.ยังนิ่งปมทบทวนจ้างเหมาบริการ “ธนุ” ไม่รอแล้วสั่งทำสัญญาจ่ายเงิน ตามระเบียบกรมบัญชีกลาง 25 พ.ย. 2567ล 1932/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม 25 พ.ย. 2567สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย จำนวน 81 อัตรา - รายงานตัว 28 พ.ย. 2567 25 พ.ย. 2567สพป.สมุทรสาคร เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 14 อัตรา รายงานตัว 3 ธันวาคม 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนเมืองสุรินทร์ รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนบ้านระไซร์(เด่นพัฒนา) รับสมัครครูอัตราจ้าง วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 7,000.- บาท  24 พ.ย. 2567สพป.เพชรบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 11 อัตรา - รายงานตัว 4 ธันวาคม 2567

การพัฒนารูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

usericon

บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง        การพัฒนารูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ             YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ            ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย        นางสาวยะฮารา มะดีเยาะ
ปีการศึกษา    2562


    การพัฒนารูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อประเมินประสิทธิผลรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ คือ
2.1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนที่เรียนตามรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL ก่อนและหลังเรียน 2.2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนตามรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODELก่อนและหลังเรียน และ2.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้หลังการเรียนตามรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม มีนักเรียน จำนวน 26 คน ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยในลักษณะของงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน (The Embedded Design) ด้วยวิธีการเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) เสริมด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) และใช้แบบแผนการทดลองแบบทดสอบกลุ่มเดียวสอบก่อน-หลัง (The One Group Pretest-Posttest Design) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) พบว่า
    1. รูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 องค์ประกอบของรูปแบบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ เน้นที่ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ขึ้นเองอย่างเป็นระบบ และผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่เน้นการร่วมมือกันเรียนรู้
2) วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 เตรียมพร้อม (Y : Yare) ขั้นที่ 2 เชื่อมโยง (A: Associate) ขั้นที่ 3 ช่วยเหลือ (H: Help) ขั้นที่ 4 วิเคราะห์ (A: Analyses) ขั้นที่ 5 ทบทวน (R: Review) ขั้นที่ 6 สรุป
(A: Abstract) 4) การวัดและประเมินผล 2 ด้าน คือ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ประกอบด้วยผู้เรียนต้องความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มีความรับผิดชอบ และมุ่งมั่นในการทำงาน รวมทั้งภาระงานที่มอบหมายให้ผู้เรียนต้องท้ายทายความสามารถของผู้เรียน มีความเหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถของผู้เรียนในระดับประถมศึกษา ผลการหาค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ E1/E2 กับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 80.35/81.52
    2. ประสิทธิผลรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสรุปดังนี้
        2.1 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถติที่ .01
        2.2 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถติที่ .01
        2.3 นักเรียนมีความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้หลังการเรียนตามรูปแบบการสอนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมตามแนวของ YAHARA MODEL โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.59, S.D = 0.66)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^