การพัฒนารูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy)
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy)
เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ผู้วิจัย นางสาวยะฮารา มะดีเยาะ
ปีการศึกษา 2562
การพัฒนารูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม โดยใช้รูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนเทศบาล ๑ บ้านจะบังติกอ สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม มีนักเรียน จำนวน 24 คน ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยในลักษณะของงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้แบบแผนการทดลองแบบทดสอบกลุ่มเดียวสอบก่อน-หลัง (The One Group Pretest-Posttest Design) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) พบว่า
1. รูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ประกอบไปด้วยขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การค้นหาความรู้ (Acquisition) ขั้นที่ 2 การดัดแปลงความรู้ (Transformation) และขั้นที่ 3 การประเมินผลความรู้ (Evaluation)
2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุด หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม โดยใช้รูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีประสิทธิภาพ83.40/83.17 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
3. ความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ .01
4. นักเรียนที่จัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ของเมอร์ฟี่ (Murphy) เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด