การส่งเสริมเจตคติในการส่งงานของนักเรียน
การส่งเสริมเจตคติในการส่งงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รายวิชาสังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อส่งเสริมเจตคติในการส่งงานของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในรายวิชาสังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนในรายวิชาสังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2563 ของโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จำนวน 97 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การส่งเสริมเจตคติโดยการใช้คำพูดในการเสริมแรง การส่งเสริมเจตคติในการใช้การให้ระดับผลคะแนนการส่งงาน การส่งเสริมเจตคติโดยให้นักเรียนบันทึกตารางคะแนน ระดับผลคะแนนการส่งงานวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ยร้อยละ
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
การส่งงานในรายวิชาสังคมศึกษา พบว่าการส่งงานสูงขึ้นกว่าก่อนได้รับการส่งเสริมเจตคติคิดเป็นร้อยละ 57.73 และการส่งงานของนักเรียนหลังการส่งเสริมเจตคติคิดเป็นร้อยละ 94.85 โดยค่าเฉลี่ยร้อยละของการส่งงานก่อนและหลังการได้รับส่งเสริมเจตคติสูงขึ้นเป็น 37.12 ซึ่งหมายถึง นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ควรได้รับการส่งเสริมเจตคติจากครูผู้สอน เพื่อช่วยให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในการส่งงานสูงขึ้น
ข้อเสนอแนะ
ควรมีการเสริมแรงและยกย่องชมเชยให้กำลังใจกับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ทำการเรียนการสอน
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อส่งเสริมเจตคติในการส่งงานของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในรายวิชาสังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนในรายวิชาสังคมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2563 ของโรงเรียนคลองพนสฤษดิ์พิทยา จำนวน 97 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การส่งเสริมเจตคติโดยการใช้คำพูดในการเสริมแรง การส่งเสริมเจตคติในการใช้การให้ระดับผลคะแนนการส่งงาน การส่งเสริมเจตคติโดยให้นักเรียนบันทึกตารางคะแนน ระดับผลคะแนนการส่งงานวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ยร้อยละ
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
การส่งงานในรายวิชาสังคมศึกษา พบว่าการส่งงานสูงขึ้นกว่าก่อนได้รับการส่งเสริมเจตคติคิดเป็นร้อยละ 57.73 และการส่งงานของนักเรียนหลังการส่งเสริมเจตคติคิดเป็นร้อยละ 94.85 โดยค่าเฉลี่ยร้อยละของการส่งงานก่อนและหลังการได้รับส่งเสริมเจตคติสูงขึ้นเป็น 37.12 ซึ่งหมายถึง นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ควรได้รับการส่งเสริมเจตคติจากครูผู้สอน เพื่อช่วยให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในการส่งงานสูงขึ้น
ข้อเสนอแนะ
ควรมีการเสริมแรงและยกย่องชมเชยให้กำลังใจกับนักเรียนอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ทำการเรียนการสอน