รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน
เรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน
โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน)
ผู้ศึกษา สุธัญยาภรณ์ ติ้งจันทร์
ปีที่ศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อ การเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 45 คน ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 24 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 21 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยโดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.92/82.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนรู้
ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือ ด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียนรู้
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน)
ผู้ศึกษา สุธัญยาภรณ์ ติ้งจันทร์
ปีที่ศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อ การเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 45 คน ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จำนวน 24 คน และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 จำนวน 21 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล 6 (ถนนโคกเคียน) ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนราธิวาส จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยโดยใช้ t-test (Dependent Samples) ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 81.92/82.92 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนรู้
ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือ ด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียนรู้
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละและอัตราส่วน โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก