LASTEST NEWS

26 พ.ย. 2567สพฐ. เข้ม สั่งครูล่วงละเมิดนักเรียนออกจากราชการทันที ย้ำดูแลสภาพจิตใจเด็กเป็นสำคัญ 26 พ.ย. 2567สพฐ.เล็งทำบัตรสุขภาพนักเรียนออนไลน์ 26 พ.ย. 2567ทำไมครูส่วนใหญ่ ไม่สนใจสมัครสอบเป็นศึกษานิเทศก์ 26 พ.ย. 2567ก.พ.ยังนิ่งปมทบทวนจ้างเหมาบริการ “ธนุ” ไม่รอแล้วสั่งทำสัญญาจ่ายเงิน ตามระเบียบกรมบัญชีกลาง 25 พ.ย. 2567ล 1932/2567 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม 25 พ.ย. 2567สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย จำนวน 81 อัตรา - รายงานตัว 28 พ.ย. 2567 25 พ.ย. 2567สพป.สมุทรสาคร เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 14 อัตรา รายงานตัว 3 ธันวาคม 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนเมืองสุรินทร์ รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2567 24 พ.ย. 2567โรงเรียนบ้านระไซร์(เด่นพัฒนา) รับสมัครครูอัตราจ้าง วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 7,000.- บาท  24 พ.ย. 2567สพป.เพชรบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 11 อัตรา - รายงานตัว 4 ธันวาคม 2567

ขออนุญาตเผยแพร่ผลงานทางวิชาการครูกนกศักดิ์ บัวทอง

usericon

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย    กนกศักดิ์ บัวทอง
ปีการศึกษา 2562

บทคัดย่อ
    การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดังนี้ 3.1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ขึ้นไปและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 3.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3.3) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4. เพื่อขยายผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านนาตาล่วง) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) กลุ่มทดลองเครื่องมือ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านนาตาล่วง) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวนนักเรียน 28 คน และกลุ่มขยายผลรูปแบบครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านนาตาล่วง) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวนนักเรียน 23 คน
    ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย คือ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 - ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาเรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์ เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินทักษะกระบวนการแก้ปัญหา และ4) แบบประเมินความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัย
1. ข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า จากรายงานผลการทดสอบระดับชาติการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 พบว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยในสาระเทคโนโลยีสารสนเทศต่ำกว่าเกณฑ์ทั้งในระดับประเทศ ระดับเขต ระดับท้องถิ่น และระดับจังหวัด
    2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้มี 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการเรียนการสอน มีขั้นตอนดังนี้ (1) ขั้นกำหนดปัญหา (2) ขั้นทำความเข้าใจกับปัญหา (3) ขั้นดำเนินการศึกษาค้นคว้า (4) ขั้นสังเคราะห์ความรู้ (5) ขั้นสรุปและประเมินค่าของคำตอบ (6) ขั้นนำเสนอและประเมินผลงาน และ 4) การวัดและประเมินผลทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและทักษะการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งผ่านการประเมินและรับรองรูปแบบจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 ท่านผลการประเมินและรับรองรูปแบบ อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( x-bar = 4.93, S.D. = 0.15) และรูปแบบมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.73/83.11
    3. ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ขึ้นไปและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด2) นักเรียนมีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโดยรวมอยู่ในระดับสูง 4) นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
    4. ผลการขยายผลรูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา เรื่อง การใช้งานโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล 2016 (Microsoft Excel 2016) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 80 ขึ้นไปและมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์เฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 2) นักเรียนมีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโดยรวมอยู่ในระดับสูง 3) นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^