การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะฯ
สมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสระพังวิทยาคม
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ชื่อผู้เสนอผลงาน นางลัดดาพร ศรีทองสุข
ปีที่จัดทาผลงาน 2563
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสระพังวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการจาเป็นการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสระพังวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อออกแบบและการพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสระพังวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 3) เพื่อทดลองการใช้รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสระพังวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนสระพังวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้
ในการวิจัย 250 คน คือ ครูผู้สอนและนักเรียน จาแนกเป็นครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศ จานวน23 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 จานวน 227 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสังเกต และ ประเด็นสนทนากลุ่มการวิเคราะห์ขอ้ มูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า Wilcoxon Signed RanksTest ค่า t –test แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1) การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครู เอสพีดับบลิวเอส (SPWS Model) ประกอบด้วย หลักการมุ่งเน้นกระบวนการนิเทศที่เป็นระบบสัมพันธ์กันและคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาสมรรถนะการนิเทศและการทาวิจัยในชั้นเรียน กระบวนการนิเทศ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่1 Classifying : Cการคัดกรองระดับความรู้ความสามารถ ทักษะที่สาคัญเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้และการวิจัยในชั้นเรียน เพื่อจัดกลุ่มครูและเลือกวิธีการนิเทศที่เหมาะสมสาหรับครูแต่ละกลุ่มขั้นตอนที่ 2Informing : I การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ ขั้นตอนที่ 3 Proceeding : P การดาเนินงาน ได้แก่
3.1 การประชุมก่อนการสังเกตการสอน (Pre conference)
3.2 การสังเกตการสอน (Observation)3.3 การประชุมหลังการสังเกตการสอน (Post conference) ขั้นตอนที่ 4 Evaluating : E
การประเมินผลการนิเทศโดยมีการกากับติดตาม (Monitoring) อย่างต่อเนื่องทุกขั้นตอน
2) ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนพบว่า ครูผู้นิเทศ มีสมรรถนะในการนิเทศภายในแบบบูรณาการ อยู่ในระดับ สูง และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศแตกต่างกันอย่ามีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศครูผู้รับการนิเทศมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศภายในแบบบูรณาการก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ มีสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับ สูงมากและมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการอยู่ในระดับ มากที่สุด และนักเรียนมีผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการ ของครูผู้รับการนิเทศแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ นักเรียนมีผลการเรียนรู้ สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ