รายงานการพัฒนาและผลการใช้ชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาและผลการใช้ชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ
(Active Learning) เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นุxxxล ประทุมทิพย์
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาทักษะปฏิบัติการออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล๒ (บ้านลัดกะสัง) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 24 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะ จำนวน 13 ชุด 2) คู่มือการใช้ชุดฝึกทักษะ
ตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินทักษะปฏิบัติ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.14/84.03 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีทักษะปฏิบัติการออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง อยู่ในระดับดีมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 84.33
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning)
เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.54, S.D. = 0.51)
(Active Learning) เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นุxxxล ประทุมทิพย์
ปีที่วิจัย 2562
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาทักษะปฏิบัติการออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนเทศบาล๒ (บ้านลัดกะสัง) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 24 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะ จำนวน 13 ชุด 2) คู่มือการใช้ชุดฝึกทักษะ
ตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินทักษะปฏิบัติ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.14/84.03 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีทักษะปฏิบัติการออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง อยู่ในระดับดีมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 84.33
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดฝึกทักษะตามกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning)
เรื่อง การออกกำลังกาย เกมและการละเล่นพื้นเมือง อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.54, S.D. = 0.51)