การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน
ชื่อเรื่อง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อ มัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ผู้ศึกษา นางอุไรภรณ์ ชาดแดง
สถานที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 วัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จำนวน 31 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 19 ชั่วโมง 20 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 29 แผน มีค่าความเหมาะสม เฉลี่ยเท่ากับ 4.89 อยู่ในเกณฑ์ระดับเหมาะสมมากที่สุด 2) แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 3 เล่ม มีค่าความเหมาะสม เฉลี่ยเท่ากับ 4.46 อยู่ในเกณฑ์ระดับเหมาะสมมากที่สุด 3) แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ ผ่านการคัดเลือก ตามเกณฑ์ ซึ่งมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.40-0.70 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.27-0.67 และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.902 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 10 ข้อ ซึ่งดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหา (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.931
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าสถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ T-test dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีค่าประสิทธิภาพ 82.23/81.94 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลการทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีค่าเท่ากับ 0.6599 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.99
4. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย เพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (
สถานที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 วัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาล 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฎร์นิยมธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จำนวน 31 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 19 ชั่วโมง 20 นาที เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 29 แผน มีค่าความเหมาะสม เฉลี่ยเท่ากับ 4.89 อยู่ในเกณฑ์ระดับเหมาะสมมากที่สุด 2) แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 3 เล่ม มีค่าความเหมาะสม เฉลี่ยเท่ากับ 4.46 อยู่ในเกณฑ์ระดับเหมาะสมมากที่สุด 3) แบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อ ผ่านการคัดเลือก ตามเกณฑ์ ซึ่งมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.40-0.70 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.27-0.67 และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.902 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย จำนวน 10 ข้อ ซึ่งดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหา (IOC) อยู่ระหว่าง 0.80-1.00 และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.931
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าสถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ T-test dependent
ผลการศึกษาพบว่า
1. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีค่าประสิทธิภาพ 82.23/81.94 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลการทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่เรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดียเพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีค่าเท่ากับ 0.6599 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.99
4. นักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สมองเป็นฐาน โดยใช้แบบฝึกทักษะประกอบสื่อมัลติมีเดีย เพื่อเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (