การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน
เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านในเมือง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑
ผู้รายงาน นางสาวบุญบุษกร รอดคง
ปี ๒๕๖๓
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียน คำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๔ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๓๔ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปสระลดรูป จำนวน ๒๐ ข้อ แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป จำนวน ๕ เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ที่เรียนด้วย แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป และสระลดรูป
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าร้อยละ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
๑. สร้างและพัฒนาประสิทธิภาพ แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ พบว่ามีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้ คือมีประสิทธิภาพ ๙๐.๖๒/๘๖.๖๒
๒. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐.๕
3. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิค กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านในเมือง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑
ผู้รายงาน นางสาวบุญบุษกร รอดคง
ปี ๒๕๖๓
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียน คำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๔ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จำนวน ๓๔ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปสระลดรูป จำนวน ๒๐ ข้อ แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป จำนวน ๕ เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ที่เรียนด้วย แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป และสระลดรูป
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าร้อยละ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
๑. สร้างและพัฒนาประสิทธิภาพ แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ พบว่ามีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้ คือมีประสิทธิภาพ ๙๐.๖๒/๘๖.๖๒
๒. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐.๕
3. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับการใช้เทคนิค กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อส่งเสริมทักษะเรื่องการอ่าน การเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด