การอ่านจับใจความ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑
ผู้รายงาน นางสาวบุญบุษกร รอดคง
ปี ๒๕๖๑
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์เขต ๑ มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน จับใจความ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๔ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๒๙ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านจับใจความ จำนวน ๒๐ ข้อ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๕ เล่ม และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีผลต่อแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน ๑ ฉบับ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าร้อยละ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
๑. สร้างและหาประสิทธิภาพ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ ชั้นประถมศึกษาปีที่๑ พบว่ามีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้ คือมีประสิทธิภาพ ๘๓.๖๐/๘๒.๑๗
๒. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑
ผู้รายงาน นางสาวบุญบุษกร รอดคง
ปี ๒๕๖๑
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์เขต ๑ มีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน จับใจความ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๒. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๓. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๔ โรงเรียนบ้านในเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวน ๒๙ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการอ่านจับใจความ จำนวน ๒๐ ข้อ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๕ เล่ม และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีผลต่อแบบฝึกเสริมทักษะเรื่องการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน ๑ ฉบับ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าร้อยละ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test Dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
๑. สร้างและหาประสิทธิภาพ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความ ชั้นประถมศึกษาปีที่๑ พบว่ามีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้ คือมีประสิทธิภาพ ๘๓.๖๐/๘๒.๑๗
๒. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด