รายงานการประเมินโครงการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุ
การประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินของโครงการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เพื่อส่งเสริมทักษะสากลของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนเทศบาล ๓ วัดอัมพวันเจติยาราม 4 ด้านตามรูปแบบ CIPPIEST ได้แก่ 1) ด้านบริบท 2) ด้านปัจจัยนำเข้า 3) ด้านกระบวนการ 4) ด้านผลผลิต โดยพิจารณารวมอีก 4 ด้าน คือ 4.1) ด้านผลกระทบ 4.2) ด้านประสิทธิผล 4.3) ด้านความยั่งยืน และ 4.4) ด้านการถ่ายโยงความรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในประเมิน เป็นผู้บริหาร จำนวน 1 คน ครู จำนวน 24 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 153 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 153 คน รวมจำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 338 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการเป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Five Rating Scales) โดยประเมินความเหมาะสมมากที่สุดถึงน้อยที่สุด จำนวน
3 ฉบับ ฉบับที่ 1 สำหรับผู้บริหาร ครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สอบถามความคิดเห็นที่มีต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า และด้านกระบวนการ ฉบับที่ 2 สำหรับครู นักเรียน และผู้ปกครอง สอบถามความคิดเห็นที่มีต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับด้านผลผลิต คือ ทักษะสากลของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และฉบับที่ 3 สำหรับผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง สอบถามความคิดเห็นที่มีต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับด้านผลผลิตที่พิจารณารวมถึง ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายโยงการเรียนรู้ ผู้ประเมินเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ(%) ค่าเฉลี่ย (มิว) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (ซิกม่า) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการประเมินพบว่า
1. ด้านบริบท (Context) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า หลักการและเหตุผลของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ แนวทางการดำเนินโครงการมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาของนักเรียนและการจัดกระบวนการเรียนการสอนของครู และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้ายคือ การประเมินผลโครงการและตัวชี้วัดความสำเร็จมีความสอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ของโครงการ
2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า มีการตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ และมอบหมายงานเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของบุคลากร มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ มีการฝึกอบรมให้ความรู้ในบทบาทหน้าที่และแนวปฏิบัติในการดำเนินโครงการอย่างดี และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้ายคือ มีการประสานงานกับผู้ปกครองและชุมชน ในด้านแหล่งเรียนรู้ภายนอก และภูมิปัญญาต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วม ในการดำเนินโครงการ
3. ด้านกระบวนการ (Process) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ของครูผู้สอนเป็นไปตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ออกแบบไว้ รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ การจัดฝึกอบรมให้ความรู้ เรื่องกระบวนการจัดกิจรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และทักษะสากลของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และการออกแบบแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกระดับชั้น และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ มีงบประมาณ ในการดำเนินการที่เพียงพอ
4. ด้านผลผลิต (Product) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills-8Cs) มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ ทักษะการเรียนรู้และภาวะผู้นำ (Learning and Leadership-2Ls) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้ายคือ ทักษะในสาระวิชาหลัก (Core Subjects–3Rs)
4.1 ด้านผลกระทบ (Impact) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า นักเรียนมีสมรรถนะที่สำคัญตามหลักสูตรสูงขึ้น มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ ครูมีสื่อ นวัตกรรม และเครื่องมือที่เกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างหลากหลายและสร้างสรรค์ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ นักเรียนมีผลการประเมินระดับชาติ RT NT และ O-net สูงขึ้น
4.2 ด้านประสิทธิผล (Effective) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณา รายข้อ พบว่า ครูมีแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และทุกระดับชั้นที่มีคุณภาพ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ โรงเรียนมีนวัตกรรมที่เกิดจากการจัดกระบวนการเรียนการสอนของครูและนักเรียน และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ผู้ปกครอง มีความพึงพอใจต่อกระบวนการจัดการเรียนรู้ของครู และผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะสากลของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน
4.3 ด้านความยั่งยืน (Sustainability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อ พิจารณารายข้อ พบว่า นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู รองลงมา คือ ครูผู้สอนสามารถสร้างสรรค์สื่อ และนวัตกรรม เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) อย่างมีประสิทธิภาพ และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ครูผู้สอนสามารถนำความรู้ และแนวคิดจากกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) มาพัฒนาเป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนใหม่ ที่สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ และระดับชั้นได้อย่างหลากหลาย
4.4 ด้านการถ่ายโยงการเรียนรู้ (Transportability) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า โรงเรียนเป็นสถานที่ศึกษาดูงานการจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ให้กับโรงเรียนทั้งในและนอกสังกัด รองลงมาคือ นักเรียนมีทักษะสากลของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ในการเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนและหน่วยงานอื่น และข้อที่มีค่าเฉลี่ยลำดับสุดท้าย คือ ครูได้เป็นวิทยากรฝึกอบรมการจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ให้กับโรงเรียนทั้งในและนอกสังกัด