การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ เรื่อง ปริมาณสารสัมพ
ชื่อเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
ชื่อผู้วิจัย รมณธรณ์ นาเมือง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนสามโคก องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เทียบกับเกณฑ์เป้าหมายของโรงเรียนที่กำหนดไว้ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และมีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น(5Es) การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบไม่เข้าขั้นการทดลอง (Pre-Experimental Research) โดยมีรูปแบบการวิจัยแบบกลุ่มเดียวหรือรายกรณี (One-Shot Case Study) กลุ่มเป้าหมายที่ศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 44 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) จำนวน 10 แผน รวมเวลาสอน 15 ชั่วโมง และ 2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาเคมี2 เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.30 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.25 – 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งฉบับเท่ากับ 0.81 และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ วิชาเคมี2 เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่ามี 5 ระดับ จำนวน 32 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 70 ขึ้นไป จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 93.18 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนด
2) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ในด้านบทบาทครูผู้สอน บทบาทผู้เรียน กิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล ในระดับมากที่สุด
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
ชื่อผู้วิจัย รมณธรณ์ นาเมือง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนสามโคก องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
ปีที่วิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องปริมาณสารสัมพันธ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เทียบกับเกณฑ์เป้าหมายของโรงเรียนที่กำหนดไว้ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และมีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น(5Es) การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบไม่เข้าขั้นการทดลอง (Pre-Experimental Research) โดยมีรูปแบบการวิจัยแบบกลุ่มเดียวหรือรายกรณี (One-Shot Case Study) กลุ่มเป้าหมายที่ศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 44 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ประเภท ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) จำนวน 10 แผน รวมเวลาสอน 15 ชั่วโมง และ 2) เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาเคมี2 เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (P) อยู่ระหว่าง 0.30 – 0.80 ค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.25 – 0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งฉบับเท่ากับ 0.81 และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ วิชาเคมี2 เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่ามี 5 ระดับ จำนวน 32 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 70 ขึ้นไป จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 93.18 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนด
2) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ในด้านบทบาทครูผู้สอน บทบาทผู้เรียน กิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล ในระดับมากที่สุด