การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล
(Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นายวรเมธ งะเจ๊ะ
ปีการศึกษา 2562
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาพัฒนาการของความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดชนาธิปเฉลิม) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองสตูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ในการวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน (The Embeded Design) ด้วยการศึกษาวิธี
การเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) เสริมด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 เตรียมการ ขั้นที่ 2 ดำเนินกิจกรรม ขั้นที่ 3 กิจกรรมผู้เรียน ขั้นที่ 4 ประเมินการเรียนรู้
2. หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01
3. ความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีพัฒนาการขึ้นในช่วงเวลาระหว่างเรียนจากระดับพอใช้เป็นระดับดีเยี่ยม โดยที่ระยะที่ 1 อยู่ในระดับพอใช้ คิดเป็นร้อยละ 68.93 ระยะที่ 2-3 อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 74.73 และ 77.33 ตามลำดับ และระยะที่ 4 อยู่ในระดับดีเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 80.67
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล
(Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นายวรเมธ งะเจ๊ะ
ปีการศึกษา 2562
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาพัฒนาการของความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดชนาธิปเฉลิม) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองสตูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 30 คน ในการวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีดำเนินการวิจัยในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี (Mixed Methods Research) ที่มีลักษณะเป็นแบบแผนเชิงผสมผสานแบบรองรับภายใน (The Embeded Design) ด้วยการศึกษาวิธี
การเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) เสริมด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Methods) วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระและแบบอิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 เตรียมการ ขั้นที่ 2 ดำเนินกิจกรรม ขั้นที่ 3 กิจกรรมผู้เรียน ขั้นที่ 4 ประเมินการเรียนรู้
2. หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญสถิติที่ระดับ .01
3. ความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนสุขศึกษาตามแนวทฤษฎีของสตีฟ เบล (Steve Bell) เรื่อง ชีวิตและครอบครัว เพื่อส่งเสริมความสามารถในการนำความรู้ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีพัฒนาการขึ้นในช่วงเวลาระหว่างเรียนจากระดับพอใช้เป็นระดับดีเยี่ยม โดยที่ระยะที่ 1 อยู่ในระดับพอใช้ คิดเป็นร้อยละ 68.93 ระยะที่ 2-3 อยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 74.73 และ 77.33 ตามลำดับ และระยะที่ 4 อยู่ในระดับดีเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 80.67