LASTEST NEWS

06 ก.ย. 2567เทศบาลเมืองแก่งคอย รับสมัครคัดเลือกครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ไม่ต้องสอบแข่งขัน จำนวน 2 อัตรา วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 16,560 บาท ตั้งแต่วันที่ 9 - 13 กันยายน 2567 05 ก.ย. 2567โรงเรียนเทศบาล 1 (ในระบบสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง) รับสมัครผู้ช่วยครู 10 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 6-11 กันยายน 2567 05 ก.ย. 2567สพป.สุรินทร์ เขต 3 ขอใช้บัญชีครูผู้ช่วย สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 6 อัตรา - รายงานตัว12 กันยายน 2567 05 ก.ย. 2567โรงเรียนบ้านบุ รับสมัคร ธุรการโรงเรียน วุฒิปริญญาตรีทุกสาขา เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่ 8 – 10 กันยายน 2567 05 ก.ย. 2567ระเบียบใหม่ ปี 67 กำหนดคุณสมบัติครู ร.ร.นอกระบบ ต้องมีอย่างน้อย 1 คนต่อห้องเรียน 05 ก.ย. 2567สพฐ.ออกหนังสือ ด่วนที่สุด ประกาศ มาตรการลดภาระการรายงานของสถานศึกษา 04 ก.ย. 2567สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 รับสมัครพนักงานราชการ 2 อัตรา วุฒิม.6 - ปริญญาตรีทุกสาขา ตั้งแต่ 9-13 กันยายน 2567 04 ก.ย. 2567ล่าสุด..ท้องถิ่น มีตำแหน่งว่าง เปิดสอบ 6,238 อัตรา ม.บูรพา ออกข้อสอบ คาดว่า มีผู้สมัครมากกว่า 5แสนคน 03 ก.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 03 ก.ย. 2567สพฐ.ปรับโฉมการประชุม ผอ.สพท.ทุกคนต้องโชว์ผลงาน

รูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อก

usericon

ชื่อเรื่อง    รูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม)
ผู้วิจัย        นางสาวสุขฤทัย ไวชมภู
ผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) เทศบาลเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
ปีวิจัย        ปีการศึกษา 2562

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

    การวิจัยรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) 2) พัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) 3) ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหาร งานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) ก่อนนำออกเผยแพร่เป็นผลงานวิชาการต่อไป ประชากร/กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ บุคลากรของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) จำนวน 28 คน (ผู้บริหาร จำนวน 2 คน ครูผู้สอน จำนวน 26 คน) คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน จำนวน 15 คน ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผู้บริหารโรงเรียน (ระดับเชี่ยวชาญ) จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามสภาพการบริหารงานวิชาการ มีค่าความเชื่อมั่น .96 แบบประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้องของรูปแบบการบริหาร มีค่าดัชนีความสอดคล้อง .98 แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการบริหาร มีค่าความเชื่อมั่น .96 แบบประเมินมาตรฐานการศึกษา แบบประเมินความสามารถในการบริหาร งานวิชาการ มีค่าความเชื่อมั่น .96 แบบประเมินประสิทธิผล มีค่าความเชื่อมั่น .94 แบบสอบถามความพึงพอใจ มีค่าความเชื่อมั่น .97 และแบบสอบถามเพื่อการประเมินรูปแบบการบริหาร มีค่าความเชื่อมั่น .96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC = Index of Item Objective Congruence) และการบรรยาย

สรุปผลการวิจัย
    1. สภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) พบว่า โดยรวมมีสภาพการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง โดยทุกด้านของสภาพการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง สูงสุดคือ ด้านการบริหารการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ รองลงมา คือ ด้านการบริหารหลักสูตรกับด้านการบริหารการประกันคุณภาพการศึกษา ต่อมาคือ ด้านการบริหารการจัดการเรียนรู้ และด้านการบริหารการนิเทศการศึกษา ตามลำดับ โดยทุกข้อของสภาพการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.71 – 3.32
    2. รูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) ที่สร้างขึ้นมีชื่อว่า 2SQPAT Model มีองค์ประกอบ 6 ด้าน คือ ด้านวิชาการ (Academic : A) ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic Administration : S) ด้านการทำงานเป็นทีม (Team Working : T) ด้านการประกันคุณภาพ (Quality Assurance: Q) ด้านการประเมินผล (Performance : P) และด้านความพอใจ (Satisfaction : S) ผลการประเมินความเหมาะสมและความสอดคล้อง โดยผู้เชี่ยวชาญ มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ .98 ผลการประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการ โดยผู้บริหารโรงเรียน (ระดับเชี่ยวชาญ) พบว่า ทั้งรูปแบบและองค์ประกอบ มีความเหมาะสมนำไปปฏิบัติได้ อยู่ในระดับมากที่สุด และทุกด้านมีความเหมาะสมนำไปปฏิบัติได้อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ รูปแบบการบริหารงานวิชาการ รองลงมาคือ ด้านการประกันคุณภาพ ต่อมาคือด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์กับด้านการประเมินผล ด้านการทำงานเป็นทีม กับด้านความพอใจ และด้านวิชาการ ตามลำดับ และทุกข้อมีความเหมาะสมนำไปปฏิบัติได้ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.56 – 5.00
    3. การทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) พบว่า โดยรวมผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบที่ 4 ของโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม)โดยคณะกรรมการประเมินของเทศบาลเมืองสระบุรี ในปีการศึกษา 2562 อยู่ในระดับดีเลิศสูงกว่าปีการศึกษา 2561 (อยู่ในระดับดี) โดยทุกมาตรฐานการศึกษาปีการศึกษา 2562 สูงกว่าปีการศึกษา 2561 โดยรวมครูผู้สอนมีความสามารถในการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา รองลงมาคือ ด้านการนิเทศการศึกษา ต่อมาคือ ด้านการบริหารหลักสูตรกับด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการสร้างความพอใจ และด้านการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ตามลำดับและทุกข้อครูผู้สอนมีความสามารถในการบริหารวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย อยู่ระหว่าง 4.73 – 4.96 และโดยรวมประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านการประเมินผลกับด้านความพึงพอใจ รองลงมาคือโครงสร้างการบริหาร ต่อมาคือ ด้านวิชาการ และด้านสภาพแวดล้อม และทุกข้อมีประสิทธิผลของการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.67 – 4.93
    4. การประเมินรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) ก่อนนำออกเผยแพร่เป็นผลงานวิชาการ พบว่า โดยรวมผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด และทุกข้อผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียนด้วยรูปแบบการบริหารงานวิชาการ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.81 – 4.96 และโดยรวมรูปแบบการบริหารงานวิชาการ มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยสูงสุดคือ ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์กับด้านการทำงานเป็นทีม รองลงมาคือ ด้านวิชาการกับด้านการประกันคุณภาพ ต่อมาคือด้านความพอใจและด้านการประเมินผล ตามลำดับ และทุกข้อของรูปแบบการบริหารงานวิชาการ มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.71 – 4.93

ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้
        จากการวิจัยรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในการวิจัยเพิ่มเติม ดังนี้
        1.1 การศึกษาเพิ่มเติมในเชิงนโยบาย เพื่อกำหนดเป็นแนวทางสำหรับในการวิจัยครั้งนี้คือ
การศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ขององค์ประกอบทั้ง 6 ด้านของรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) เทศบาลเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี
        1.2 ควรส่งเสริมให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาร่วมมือกันนำเสนอหลักการและแนวคิดการบริหาร งานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ทั้งด้านการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ การนิเทศการศึกษาและการประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน เพื่อสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทั้งด้านความรู้และความสามารถที่ใช้ในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนให้ผู้ปกครองนักเรียนเกิดความพอใจและเชื่อมั่นต่อการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อให้การบริหารจัดการโรงเรียนประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
        1.3 การนำผลการวิจัยไปใช้
        ผู้บริหารในระดับโรงเรียนและระดับสูงกว่าโรงเรียน ควรได้ศึกษาผลการวิจัยให้เข้าใจถึงวิธีการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม ที่ส่งผลต่อการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดศรีบุรีรตนาราม) เทศบาลเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เพื่อสามารถนำผลการวิจัยไปต่อไป ดังนี้
            1.2.1 การนำผลการวิจัยไปใช้ในระดับโรงเรียน ดังนี้
                1) การนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาวิธีการบริหารงานวิชาการ โดยควรมุ่งเน้นการทำงานเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีมของบุคลากรในโรงเรียนเพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสำหรับพัฒนางานวิชาการของโรงเรียนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
                2) การนำไปใช้เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการบริหารงานวิชาการเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม เพื่อพัฒนาการสร้างระบบการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
            1.2.2 การนำผลการวิจัยไปใช้ในระดับสูงกว่าโรงเรียน ดังนี้
                1) การนำไปใช้เพื่อนิเทศ กำกับและติดตามการบริหารโรงเรียน เพื่อสนับสนุนให้โรงเรียนได้ศึกษาวิเคราะห์วิธีการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน ด้วยการวางแผนเพื่อพัฒนาครูผู้สอนให้สามารถทำงานเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมมือร่วมใจกันดำเนินงานประกันคุณภาพภายในโรงเรียนให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป
                2) การนำไปใช้เป็นแนวทางเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้บริหารสถานศึกษาได้ใช้หลักการบริหารสถานศึกษาที่เน้นเชิงกลยุทธ์แบบทำงานเป็นทีม เพื่อพัฒนางานวิชาการและการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ให้โรงเรียนมีคุณภาพมาตรฐานการศึกษาตามที่กำหนด







ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^