LASTEST NEWS

30 ก.ค. 2567โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาอังกฤษ เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 2-8 สิงหาคม 2567 30 ก.ค. 2567สพฐ.ผ่านการประเมิน ITA ปี 67 ได้คะแนนสูงสุดใน ศธ. 30 ก.ค. 2567สพฐ.มีหนังสือด่วนที่สุด ! แจ้งการโอนงบประมาณเหลือจ่ายฯ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นฯ สำหรับจ้างเหมาบริการนักการภารโรง คืนส่วนกลาง 30 ก.ค. 2567ร้อง"บิ๊กอุ้ม"-กมธ.สส.ยังยั้ง ศธ.ปรับหลักสูตร-อ้างครูฯลงชื่อคัดค้านเพียบ 30 ก.ค. 2567สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เปิดรับสมัครวุฒิปริญญาโททุกสาขา เงินเดือน 22,750 บาท ตั้งแต่บัดนี้-20 สิงหาคม 2567 29 ก.ค. 2567ชี้ครู 80% เริ่มเข้าใจการเรียนการสอนแบบ Active Learning 29 ก.ค. 2567โรงเรียนอนุบาลนางรอง(สังขกฤษณ์อนุสรณ์) รับสมัครครูอัตราจ้าง เงินเดือน 9,140 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 1 ส.ค.2567 29 ก.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 29 ก.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 28 ก.ค. 2567รัฐบาล เชิญชวนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ประชาชน สวมใส่เสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ฯ ทุกวันจันทร์โดยพร้อมเพรียง

การพัฒนารูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้าน

usericon

ชื่อเรื่อง     การพัฒนารูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านนาวงศ์
    สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2
ผู้วิจัย            ว่าที่ ร.อ.จิรภัทร มหาวงค์
สถานศึกษา        โรงเรียนบ้านนาวงศ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2
ปีการศึกษา    2561 - 2562

บทคัดย่อ

    การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ และแนวทาง พัฒนารูปแบบ ทดลองใช้รูปแบบ และประเมินรูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านนาวงศ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 วิธีดำเนินการวิจัย มี 4 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ และแนวทาง โดยการวิเคราะห์และสังเคราะห์ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์สภาพปัญหา และความต้องการ จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 28 คน พหุกรณีศึกษาสถานศึกษาที่มีวิธีการปฏิบัติที่ดี ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 5 แห่ง และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา 2) การสร้างรูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านนาวงศ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 โดยนำข้อมูลจากขั้นตอนที่ 1 มายกร่างการสร้างรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน และตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ ด้วยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 12 คน 3) การทดลองใช้รูปแบบการบริหารในโรงเรียนบ้านนาวงศ์ กับครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 366 คน และปีการศึกษา 2562 จำนวน 357 คน 4) การประเมินความมีประโยชน์ของรูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน การประเมินผลงานที่โรงเรียนได้รับ และการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนในสถานศึกษา โดยสอบถามกับครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ปีการศึกษา 2562 จำนวน 357 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
    1. สภาพปัญหา คือ การบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านไม่เป็นระบบและการดำเนินงานไม่มีความต่อเนื่อง ความต้องการ คือ การจัดระบบการบริหารและการดำเนินงานที่เป็นระบบและหนุนเสริมให้นักเรียนรักการอ่านอย่างยั่งยืน ส่วนแนวทางการบริหารการส่งเสริม ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ คณะกรรมการและบทบาทหน้าที่ กระบวนการบริหารการส่งเสริม และตัวชี้วัดความสำเร็จการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
    2.รูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านนาวงศ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) หลักการ ประกอบด้วย 1.1) หลักการมีส่วนร่วม 1.2) หลักการเสริมพลังอำนาจ และหลักการสร้างเครือข่าย 2) คณะกรรมการและบทบาทหน้าที่ ประกอบด้วย 2.1) คณะกรรมการอำนวยการ 2.2) คณะกรรมการดำเนินงาน และ 2.3) คณะกรรมการสนับสนุน 3) กระบวนการบริหาร ประกอบด้วย 3.1) การวางแผนและกำหนดเป้าหมายการอ่าน 3.2) การดำเนินงานส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน 3.3) การประเมินผลการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน 3.4) การเสริมแรงรางวัลรักการอ่าน 3.5) การปรับปรุงและพัฒนาการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน 4) ตัวชี้วัดความสำเร็จการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ประกอบด้วย 4.1) ด้านคุณภาพนักเรียน 4.2) ด้านคุณภาพครู 4.3) ด้านคุณภาพผู้บริหารสถานศึกษา 4.4) ด้านคุณภาพสถานศึกษา และ 4.5) คุณภาพชุมชน และรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด (x- = 4.54)
    3. การทดลองใช้รูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านนาวงศ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 พบว่า กลุ่มทดลองมีผลการปฏิบัติตามรูปแบบอยู่ในระดับมาก ( x- =4.42)
    4. การประเมินรูปแบบการบริหารการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของโรงเรียนบ้านนาวงศ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 4.1) ความมีประโยชน์ของรูปแบบ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด ( x- =4.65) 4.2) มีผลงานที่โรงเรียนได้รับเชิงประจักษ์ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภาคและระดับชาติ 4.3) ความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบ พบว่า มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x- =4.51)
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^