เผยแพร่ผลงานวิจัย ครูวิจิตรา เอี่ยมสร้อย
เอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย วิจิตรา เอี่ยมสร้อย
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้นวัตกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 43 คน โดยวิธีการคัดเลือกแบบการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random Sampling) และเป็นกลุ่มนักเรียนที่มีปัญหาของผลการเรียนต่ำต้องได้รับการพัฒนาและแก้ปัญหา และกลุ่มเป้าหมายของการศึกษาความพึงพอใจ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 43 คน ครูผู้สอนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 จำนวน 3 คน ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 2 คน และผู้ปกครองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 43 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์
ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สรุปผลการวิจัย
1. การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 พบว่า คะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนโดยการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ทั้ง 6 แผน มีค่าเท่ากับ 197.14 จากคะแนนเต็ม 222 คะแนน นำมาหาค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ ( ) คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 89.59 ส่วนค่าเฉลี่ยหลังเรียนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 25.51 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 85.04 ซึ่งมีค่าเท่ากับประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ( )
ดังนั้น ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 89.59/85.04 เกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด / คือ 80/80 แสดงว่าแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรมสร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดตามสมมติฐานข้อ 1
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรม
การเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์
ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า โดยภาพรวมคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 20.16 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 25.51 คะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้าเท่ากับ 5.35 คะแนน และร้อยละของความก้าวหน้าเท่ากับ 26.53 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 25 ของคะแนนเต็มเมื่อพิจารณาเป็นรายบุคคล พบว่า นักเรียนได้คะแนนเพิ่มขึ้นทุกคน มีคะแนนความก้าวหน้าตั้งแต่ 2 ถึง 9 แสดงว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจริง และเมื่อ นำผลต่างระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมาเปรียบเทียบ โดยใช้ t- test พบว่า หลังจากนักเรียนได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ของการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นั่นแสดงว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นจริง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ในข้อ 2
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครูและผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.84 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.19 แสดงว่า นักเรียน ผู้ปกครอง ครู และผู้บริหาร มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่นักเรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง เพื่ออนาคตและคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสนใจเรียนคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น และทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 3 ที่กำหนดไว้ เมื่อศึกษาความพึงพอใจจากประชากรกลุ่มเป้าหมาย สามารถอธิบายผลได้ ดังนี้
1. ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.80
มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.30
2. ความพึงพอใจของผู้ปกครอง ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.79
มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.35
3. ความพึงพอใจของครู ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.77 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.11
4. ความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 5.00
มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ 0.00
จะเห็นได้ว่า ผลที่เกิดกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ เรื่อง ลายสานอนุกรม สร้างเอกลักษณ์ของชุมชนหนองหงส์ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในครั้งนี้ได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนานักเรียน ทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ใหม่ที่นักเรียนได้มีโอกาสปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง สามารถหาคำตอบ แก้ปัญหาจากการลงมือทำ เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ปกครอง ชุมชน สังคม ที่นักเรียนได้รับการพัฒนาเป็นผู้รู้ สามารถเป็นบุคคลที่มีคุณภาพในการดำรงชีวิตในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21 และในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบโครงงานคณิตศาสตร์ประดิษฐ์ในครั้งนี้ยังบรรลุมาตรฐานคุณภาพการศึกษาทั้ง 4 ด้าน ดังกล่าว