การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้สมองเป็นฐาน
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องใน การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด ไฮสโคป เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย 2) สร้างและตรวจสอบคุณภาพ รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคป เพื่อ ส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดย ใช้สมองเป็นฐานร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคป เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทาง คณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้ สมองเป็นฐานร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคป เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทาง คณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบ ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จำนวน 1 คน ครูผู้สอนระดับปฐมศึกษา 6 คน ศึกษานิเทศก์และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการศึกษาปฐมวัย 5 คน รวมทั้งหมด 12 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 4 – 5 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในปีการศึกษา 2562 โรงเรียนเทศบาล ๕ (พหลโยธินรามินทรภักดี) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี อำเภอเมืองราชบุรี จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ ประเด็นการ สนทนากลุ่ม และแบบสอบถาม 2) เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ ได้แก่ แบบตรวจสอบคุณภาพ รูปแบบด้านความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี และความเป็นไปได้ และแบบตรวจสอบคุณภาพรูปแบบด้าน ความสอดคล้อง และ 3) เครื่องมือตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบจากการทดลองใช้ในสภาพจริง ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติกิจกรรมสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และแบบประเมินทักษะพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และ การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการในการพัฒนารูปแบบ พบว่า การจัด ประสบการณ์ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายควรเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมกับกิจกรรมด้วยตนเอง ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับครูและเพื่อนให้มาก เน้นกิจกรรมที่ให้เด็กลงมือปฏิบัติ กิจกรรมควรง่ายไม่ ซับซ้อน สร้างบรรยากาศที่ไม่เคร่งเครียด ให้เด็กมีกิจกรรมฝึกทักษะร่วมกันเป็นกลุ่ม ครูมีความเป็น
กันเองกับเด็ก เปิดโอกาสให้เด็กสอบถามเมื่อเกิดข้อสงสัยได้เสมอ และใช้สื่อที่หลากหลาย ทั้งของจริง ภาพ และเสียง กิจกรรมที่ให้เด็กปฏิบัติไม่ควรเกิน 20 - 30 นาทีต่อวัน การประเมินผลควรทำทั้งใน ระหว่างการจัดประสบการณ์แต่ละสัปดาห์ และประเมินในภาพรวมหลังการจัดประสบการณ์จบทุก สัปดาห์ หากพบว่าเด็กยังมีข้อบกพร่องควรแนะนำให้เด็กแก้ไขและปรับปรุงได้ทันที ควรมีการ ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดประสบการณ์เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้แก่เด็ก และบางครั้งให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากเพื่อน จากบุคคลอื่นที่มีการถ่ายทอดความรู้ได้ชัดเจนในสถานการณ์จริง สนุกสนาน ได้เรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆ ด้วยตนเอง 2. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบ แยกผลที่ได้ออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) ผลการ สร้างรูปแบบ พบว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตาม แนวคิดไฮสโคป เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย มี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ (1) องค์ประกอบเชิงโครงสร้าง ประกอบด้วย หลักการ และวัตถุประสงค์ (2) องค์ประกอบเชิง กระบวนการ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างความสนใจ (Motivation) ขั้นที่ 2 ขั้น วางแผน (Plan) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติกิจกรรม (Active learning) ขั้นที่ 4 ขั้นทบทวน (Review) และขั้น ที่ 5 ขั้นการประเมินผล (Evaluation) (3) องค์ประกอบเชิงเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบ ผลสำเร็จ 2) ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า คุณภาพด้านความ สมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ด้านความเป็นไป และด้านความสอดคล้อง ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบจากการทดลองแบบภาคสนาม พบว่า ประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.25/86.40 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 3. ผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า ผลคะแนนการประเมินทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ของ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 39 คน ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 91.15 เมื่อจำแนกทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์รายด้าน พบว่า ด้านการจำแนกและเปรียบเทียบมีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 95.90 ด้านการหมวดหมู่มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 92.82 ด้านการเรียงลำดับมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 91.28 และด้านการรู้ค่าจำนวนตัวเลขมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 84.62 และมีจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 จำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 92.31 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 4. การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบ พบว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้สมองเป็นฐาน ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคป เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย มี ประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 88.35/91.15 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด จึงสรุปได้ ว่า รูปแบบการจัดประสบการณ์ โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคป เพื่อ ส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย มีประสิทธิภาพเหมาะสมที่จะนำไปใช้ต่อและเผยแพร่ เพื่อเป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์ด้านการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้น อนุบาลปีที่ 2 ได้ต่อไป